Google เปิดตัว Gemma 3 โมเดล AI ทรงพลังที่สุดบน GPU ตัวเดียว
Google เปิดตัว "Gemma 3" โมเดล AI ทรงพลังที่สุดบน GPU ตัวเดียว ประมวลผลได้ทั้งภาพ, วิดีโอ พร้อมรองรับ 35 ภาษา นักพัฒนาใช้งานง่ายผ่าน Google AI Studio
Google ประกาศผ่าน Blog อย่างเป็นทางการว่าได้ เปิดตัว Gemma 3 โมเดล AI รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Gemma ซึ่งเป็นโมเดลแบบ Open Source ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) เพียงตัวเดียว
Google เคลมว่า Gemma 3 เป็นโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลกสำหรับการทำงานบนหน่วยประมวลผลกราฟิกเพียงตัวเดียว และเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Llama ของ Facebook, DeepSeek และ OpenAI ในด้านประสิทธิภาพ
Gemma 3 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การประมวลผลข้อความเท่านั้น แต่ยังสามารถ วิเคราะห์ภาพและวิดีโอสั้นๆ รองรับมากกว่า 35 ภาษา ซึ่งถือเป็นการยกระดับความสามารถจากรุ่นก่อนหน้า
โมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชัน AI ที่สามารถทำงานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงเวิร์กสเตชัน
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าโมเดล AI อย่าง Gemma จะฮิตติดลมบนแค่ไหน แต่ความนิยมของ DeepSeek และโมเดล AI อื่นๆ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
ตลาดต้องการเทคโนโลยี AI ที่ไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์แรงๆ มากนัก และ Gemma 3 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาโมเดล AI ตัวแรงที่สามารถทำงานได้ดีบน GPU เพียงแค่ตัวเดียว
จุดเด่น Gemma 3
- ประสิทธิภาพเหนือชั้นบน GPU ตัวเดียว: Google ยืนยันว่า Gemma 3 สามารถเอาชนะโมเดลคู่แข่งชั้นนำในด้านประสิทธิภาพการทำงานบน GPU ตัวเดียว และยังได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบน GPU ของ Nvidia และฮาร์ดแวร์ AI เฉพาะทาง
- Vision Encoder อัปเกรดใหม่: Gemma 3 มาพร้อมกับ vision encoder ที่ได้รับการพัฒนาให้รองรับภาพความละเอียดสูงและภาพที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้สามารถประมวลผลภาพได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
- ShieldGemma 2 ดูแลความปลอดภัยเรื่องภาพ: Google ได้เปิดตัว ShieldGemma 2 ซึ่งเป็นตัวกรองความปลอดภัยสำหรับรูปภาพโดยเฉพาะ ช่วยตรวจจับและคัดกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมต่างๆ เช่น เนื้อหาทางเพศ และความรุนแรง
นอกจากนี้ Google ได้ทดสอบ Gemma 3 ในด้าน STEM เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อสร้างเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อสังคมออกมาหรือไม่ และผลที่ได้คือมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ
การขยับตัวในครั้งนี้ของ Google ที่ออกแบบโมเดล AI แบบ Open Source ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้นักพัฒนาไม่หนีไปพึ่งพา AI ของเจ้าอื่นที่มีความยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
แม้ว่า Gemma จะถูกเรียกว่าเป็นโมเดลแบบ Open Source แต่ประเด็นเรื่องคำนิยามของ "โมเดล AI แบบ Open Source" ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของใบอนุญาตใช้งานของ Google ที่ยังคงมีข้อจำกัดในการนำไปใช้ในบางกรณี ซึ่งใน Gemma 3 รุ่นใหม่นี้ ข้อจำกัดดังกล่าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม Google ยังคงหาแนวทางให้นักพัฒนาหันมาใช้ Gemma กันมากขึ้น โดยมีทั้ง Google Cloud credits และโครงการ Gemma 3 Academic program ที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยสมัครขอเครดิตมูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเอาไปใช้ต่อยอดงานวิจัยของตัวเอง
ลองใช้งาน Gemma 3:
- เข้าใช้งานผ่านเบราว์เซอร์โดยตรง ไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่ใช้ Google AI Studio
- รับ API key จาก Google AI Studio และเริ่มใช้งาน Gemma 3 ร่วมกับ Google GenAI SDK