posttoday

ในสถานการณ์ที่รุ่มร้อนต้องอยู่ให้เป็น

16 ตุลาคม 2564

คอลัมน์ เปิดประตูค้าชายแดน

ช่วงนี้ข่าวคราวต่างๆที่ออกมาจากประเทศเมียนมา จะมีแต่ข่าวของความไม่สงบที่ออกมาให้เห็นอยู่เป็นประจำ ทำให้ข่าวดีๆที่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย  มักจะถูกมองไม่เห็นตลอด หรือจะเป็นเพราะว่า ถ้าเป็นข่าวดีแล้ว ผู้คนมักจะไม่ค่อยจะสนใจ แต่ถ้าเป็นข่าวร้ายคนจะสนใจมากกว่าก็ไม่ทราบได้

อย่างไรก็ตาม หากเราจะเสพข่าวต่างๆจากทางประเทศเมียนมา เราคงต้องทำใจเป็นกลางเข้าไว้ ต้องดูทั้งข่าวดีและข่าวร้ายทั้งสองทาง แล้วจึงนำมาวิเคราะห์ถึงที่มาที่ไปก่อน อีกทั้งอย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ สิ่งที่ช่วยให้เข้าถึงความจริงมากที่สุด คือเราต้องตั้งสมมุติฐานว่า “ใช่แน่นะ” ไว้ก่อนเสมอ และเราต้องรอดูว่าสิ่งที่เขาออกข่าวปลอมมานั้นมีมูลเหตุมาจากอะไร ผมเชื่อว่าไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ เราก็จะทราบเองโดยอัตโนมัติครับ

ในช่วงที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่าทางการเมียนมาได้มีการเรียกให้พรรคการเมืองและนักการเมืองเมียนมา ส่งบัญชีทรัพย์สินให้แก่คณะกรรมการเลือกตั้งของรัฐบาลเมียนมาทำการตรวจสอบ ซึ่งในใจผมคิดว่า นี่อาจจะเป็นสัญญานที่ดีก็เป็นไปได้

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หมายความว่าทางรัฐบาลทหารเมียนมา กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างก็เป็นไปได้ครับ เช่น เขาอาจจะมองเห็นว่า ถึงเวลาที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะเร่งจัดการเลือกตั้งตามกำหนดที่ให้ไว้

ซึ่งหากวิเคราะห์ลงไปลึกอีกนิด ผมเชื่อว่าทางการเขาอาจจะมองว่า ความขัดแย้งที่ไม่มีทางออกนี้ ถ้าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็จะทำให้ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้

เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง รัฐบาลต้องมีความเชื่อมั่นสูงว่า จะได้กลับมาคุมอำนาจใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน แล้วอาจจะชนะในการเลือกตั้งไม่ใช่แต่เพียงครั้งเดียวก็เป็นไปได้ครับ

ในส่วนของทางด้านรัฐบาลเงาหรือ Nation Unity Government (NUG) เอง เราจะเห็นการให้ข่าวออกมาทางโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจะเป็นตัวเลขความสูญเสียของทางฝั่งโน้นฝั่งนี้เป็นประจำ ซึ่งหากวิเคราะห์ด้วยใจเป็นกลาง อาจจะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาดูเป็นส่วนประกอบด้วยก็จะดีมากครับ แต่ทุกอย่างต้องอยู่กับความเป็นจริงให้มากที่สุดครับ

อย่างไรก็ตาม ในเช้ามืดของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่เมืองมะลิดก็ได้มีการวางระเบิดที่ทำการของทางราชการหนึ่งแห่ง ซึ่งก็ได้มีความสูญเสียที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะเมืองนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา

นอกจากจะเป็นเมืองแปดร้อยเกาะที่มีความชุกชุมของปลาทะเลอย่างมากแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีความงดงามมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอีกด้วย ซึ่งปลาที่จับได้ที่นี่ เกือบร้อยละเจ็ดแปดสิบ ถูกส่งเข้ามาขายในประเทศไทยให้ชาวไทยได้บริโภคกัน

ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายใด ก็เป็นที่น่าเสียดายมากๆ เพราะถ้าหากที่นี่เกิดความไม่สงบขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้เสียหายอย่างใหญ่หลวงครับ

จากทั้งหลายทั้งมวลที่กล่าวมา หากเราจะเสพข่าวอย่างมีสติ คงต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าฝ่ายที่กระทำการไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใหนก็ตาม เขาต้องการจะทำให้เกิดอะไรกันแน่ นี่คงเป็นคำตอบที่ยังคงสลับซับซ้อนอยู่พอสมควร

เพราะอีกไม่นานเกินรอ ผมเชื่อว่าความจริงก็จะปรากฎให้เห็น เงื่อนปมต่างๆที่แต่ละฝ่ายกระทำกันอยู่นี้ คงจะต้องใช้เวลาในการติดตามข่าวสักนิดนะครับ

เราในฐานะคนนอกที่มาอาศัยบ้านเขาทำมาหากินอยู่ คงได้แต่เสพข่าวแล้วก็นำมาวิเคราะห์สนุกๆเท่านั้น เราอย่าได้เข้าไปพัวพันกิจการภายในของเขาโดยเด็ดขาด หรือวิเคราะห์ได้แต่อย่าไปวิจารณ์นะครับ

ไม่มีคนเมียนมาฝ่ายไหนชอบแน่นอนครับ ในสถานการณ์ที่กำลังชุลมุนเช่นนี้ น้องๆที่อยู่ที่นั่นต้องอยู่ให้เป็นนะครับ