posttoday

วิกฤติท่ามกลางฤดูฝน

04 กันยายน 2564

คอลัมน์ เปิดประตูค้าชายแดน

ช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มพิกัดแล้ว ฝนก็กระหน่ำเข้าสู่ประเทศเมียนมาอย่างไม่ยั้ง ซึ่งทำให้หลายๆพื้นที่เริ่มที่จะมีปัญหาน้ำป่าไหลหลาก มีน้ำท่วมเกิดขึ้นค่อนข้างจะเร็วมาก ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่สร้างความยากลำบากให้แก่ประชาชนชาวเมียนมาอีกครั้ง ผมเองก็พูดมาตลอดว่า ตลอดสามสิบกว่าปีที่ผมเข้าไปทำมาหากินที่ประเทศเมียนมา

แทบจะพูดได้ว่าได้รับฟังข่าวสารของเรื่องน้ำมาทุกปี หนักบ้างเบาบ้าง แล้วแต่สถานการณ์ ที่หนักที่สุดก็เห็นจะเป็นในปี พ.ศ.2551 หรือปีค.ศ.2008 นั่นเอง ในปีนั้นประเทศเมียนมามีผู้เสียชีวิตอย่าง 138,000 กว่าคน ผู้คนที่นอนตายตามท้องทุ่งนาทำให้เกิดความอเนจอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ผมเองก็ได้เข้าไปร่วมบรรเทาทุกข์ด้วยการบริจาคข้าวสารและสิ่งของกับเขาด้วยครับ

ในปีนี้ พอเริ่มเข้าสู่โหมดของหน้าฝน นอกจากมีเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว ยังมีโรคระบาดที่ประเทศต่างๆทั่วโลกก็ได้รับ ประเทศเมียนมาก็ไม่น้อยหน้าใคร แถมยังรับมามากกว่าชาวบ้านเขาเสียอีก เพราะวัคซีนที่ได้ซื้อหามาและที่เพื่อนบ้านอย่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกึ่งขายกึ่งแถมให้ ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะทางการเมียนมาได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 27ล้าน5 แสนโดส

แต่มาวันนี้ เพิ่งจะฉีดไปประมาณ 6,872,000 กว่าโดสเท่านั้นเอง ซึ่งหมายความว่า ทางการเมียนมาจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 180,000 โดสทุกวันจนถึงสิ้นปี ในขณะที่ทุกวันนี้ ขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ ยังคงฉีดได้วันละไม่กี่หมื่นโดส แล้วถึงสิ้นปีนี้ ทำอย่างไรก็คงไม่สามารถสำฤทธิ์ผลได้ตามเป้าหมายแน่นอนครับ

นอกจากเรื่องของวัคซีนที่มันมากับสายฝนแล้ว ยังมีมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่มาจากแม่น้ำอิยะวดี กำลังไหล่บ่าลงมาถึงทางใต้ของภาคกลางแล้ว จะเห็นว่าทางรัฐอิยะวดีที่ติดอยู่กับทะเลด้านอ่าวย่างกุ้ง น้ำทะเลก็ช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย ยังอุตส่าห์หนุนเข้ามาอีก ทำให้น้ำเอ่อนองไปทั่ว ที่เมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและเต็มไปด้วยเจดีย์สามพันกว่าองค์อย่างเมืองพุกาม น้ำก็เริ่มไหลเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามเสียแล้ว

ข่าวที่ได้รับมา เจดีย์ Than Pyin Swa น้ำเริ่มเซาะเอารั้วกำแพงพังไปเสียแล้ว ยังมีเจดีย์อีกหลายองค์ที่เริ่มมีน้ำเข้าไปท่วมขังภายในเจดีย์ เจ้าหน้าที่หน่วยดูแลซ่อมบำรุงโบราณสถานที่เป็นมรดกโลกแห่งนี้ คงต้องทำงานหนักกันอย่างไม่ต้องสงสัย

ท่านที่เคยไปเที่ยวเมืองพุกามมาแล้ว คงจะทราบดีว่า เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งเม่น้ำอิยะวดีอันสวยงาม ซึ่งช่วงที่ไหลผ่านพุกามนี้ จะมีความกว้างมากเป็นกิโลเมตรเลยครับ ผมเองก็ชอบที่จะไปนั่งกินลมชมวิวที่ริมแม่น้ำนี้ตลอดทุกครั้งที่ได้เดินทางไปที่นี่ครับ

นอกจากภัยที่มาจากธรรมชาติและโรคระบาดถาถมเข้าสู่ประเทศเมียนมาแล้ว ภัยที่เกิดจากมนุษย์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้สงสารประเทศชาติเอาเสียเลย นั่นก็คือการสู้รบกันทหารของชนชาติพันธ์กับทหารของรัฐบาลเมียนมา ผมคงไม่พูดว่าเป็นฝ่ายใหนถูกหรือผิด เพราะเราเป็นชาวต่างชาติ ไม่เหมาะสมที่จะวิจารณ์ เพียงแต่เห็นว่าช่วงนี้มีการปะทะกันถี่เหลือเกิน

ทั้งที่ชายแดนใกล้กับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เกิดการปะทะกันบ่อยมาก ล่าสุดก็เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ก็เกิดการบาดเจ็บล้มตายกันหลายนาย ท่านแฟนคลับลองเปิดดูใน YouTube ก็จะหาดูได้ไม่ยาก เราในฐานะคนรักเมียนมา ก็เพียงแต่อยากจะบอกว่า เพลาๆมือกันหน่อยก็ดีนะครับ เพราะช่วงนี้ประชาชนก็อดอยากปากแห้งกันไปหมดแล้ว สงสารประเทศชาติและประชาชนกันเถอะครับ รอให้สถานการณ์ทุกอย่างเข้าสู่ปกติแล้ว พวกท่านจะชกใส่กันอย่างไรก็ตามใจท่านแหละครับ แต่ช่วงนี้เว้นวรรคไว้มือกันสักหน่อยก็จะดีนะครับ

นอกจากนี้สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจเองก็ไม่ค่อยจะดี เพราะสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้ส่งผลถึงสภาพเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงหนักมาก ช่วงแรกๆก็เกิดสภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้ไปดึงเอาราคาสินค้าสูงขึ้นไปด้วย ถ้าภาษาเศรฐศาสตร์ เขาเรียกว่า Cost-Push Inflation

แต่พอผ่านมาถึงคราวเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้ธนาคารทำงานได้ไม่เต็มที่ เม็ดเงินในท้องตลาดขาดหายไป เพราะการจำกัดจำนวนเงินในการเบิกเงินจากธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของความจำเป็นอย่างไรก็ตามซึ่งเรามิอาจก้าวล่วงได้  แต่ก็ส่งผลให้เกิดสภาวะเงินฝืดเกิดขึ้นทันที

จึงทำให้สภาวะเศรษฐกิจเข้าสู่การตกหลุมดำทางเศรษฐกิจเข้าให้อย่างจัง ซึ่งสภาวะเช่นนี้ ภาษาทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกว่า “Economic Back Hole” คราวนี้รัฐบาลไหนๆก็เกรงกลัวหัวหดกันหมดทุกรัฐบาลละครับ อย่าว่าแต่ประเทศเล็กๆอย่างประเทศเมียนมาเลย

ต่อให้เป็นประเทศใหญ่ค้ำฟ้า อภิมหาประเทศที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็หนาวเช่นกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าพระคุณ....ขอให้ฟื้นตัวกลับมาเร็วๆเถอะครับ ทรัพย์สมบัติผมยังอยู่ที่ย่างกุ้งอีกเยอะครับ!!!!