posttoday

ปั้นเส้นทางบินอาเซียน คอนเนค พลัส ที 5 ปีสยายปีกคลุมซีแอลเอ็มวี

19 กุมภาพันธ์ 2559

การเริ่มต้นเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในแอ่งวัฒนธรรมอาเซียน ต้องปักธงที่ประเทศไทยเป็นสถานที่แรกก่อนเดินทางต่อไปยังเส้นทางอื่นๆ

โดย...พีรดา ปราศรีวงค์

การเริ่มต้นเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในแอ่งวัฒนธรรมอาเซียน ต้องปักธงที่ประเทศไทยเป็นสถานที่แรกก่อนเดินทางต่อไปยังเส้นทางอื่นๆ ของกลุ่มประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม(ซีแอลเอ็มวี) โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม

นี่ถือเป็นภารกิจหลักที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะดึงผู้บริหารสายการบินสัญชาติไทย ทั้งสายการบินไทย ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ พักยกการแข่งขันกันเอง มาร่วมวางแผนชิงเค้กก้อนโตที่จะเกิดการเดินทางหมุนเวียนระหว่างคนในชาติอาเซียนกันเอง และนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เห็นถึงสัญญาณการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศที่มีความคล่องตัว โดยมีเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้าผู้ประกอบการสายการบินของประเทศไทย จะให้บริการครบทุกเส้นทางท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองในกลุ่มซีแอลเอ็มวีทั้งหมดคู่ขนานกับอาเซียนอื่นๆ

ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ได้พยายามประสานความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับอาเซียนร่วมกัน ตั้งแต่ประตูอาเซียนยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ในภาพความร่วมมือของชาติอาเซียนที่เกิดขึ้น ในทางปฏิบัติยังมีชาติสมาชิกบางประเทศ เช่น กัมพูชา เมียนมา ยังกีดกันเส้นทางการบินและการท่องเที่ยว การออกโรงส่งเสริมการบินระหว่างรัฐบาลกับสายการบิน เอกชนท่องเที่ยวในประเทศ และจับมือกับรัฐบาลชาติซีแอลเอ็มวีครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้เห็นภาพการเดินทางท่องเที่ยวภายในชาติอาเซียนชัดเจนยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวรัฐบาลต้องดึงบริษัททัวร์ โรงแรม เข้าร่วมโครงการอาเซียน คอนเนค พลัส ที เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายลงทั้งระบบมากกว่าการใช้เฉพาะสายการบินเท่านั้น รวมถึงต้องผนึกสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งช็อปปิ้ง สินค้าโอท็อป อาหารของดีของไทย รวมเข้าในแพ็กเกจสร้างการกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นและทุกภาคส่วนของการท่องเที่ยวด้วย

วรเนติ หล้าพระบาง กรรมการบริษัท รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ ผู้ให้บริการสายการบินไทยสมายล์ เล่าว่า ไทยสมายล์มีความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางการบินในกลุ่มซีแอลเอ็มวีและชาติอาเซียนตามโครงการอาเซียน คอนเนค พลัส ที (ไทยแลนด์) ใช้ไทยเป็นฮับการบิน โดยชาวต่างชาติจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างน้อย 2-3 วัน ก่อนเดินทางต่อไปยังกลุ่มซีแอลเอ็มวี

ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการบินในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ผนึกการบินกับสายการบินไทย ให้บริการเส้นทางบินในอาเซียน 11 จุดหมายปลายทาง เช่น  ฮานอย พนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทน์ มะนิลา ปีนัง จาการ์ตา ขณะที่สายการบินให้บริการ 2 เส้นทาง ได้แก่ เสียมราฐ หลวงพระบาง โดยปีนี้บริษัทมีแผนขยายเส้นทางให้ครอบคลุม 14 เมือง และเพิ่มเป็น 20 เมือง ภายใน 5 ปีข้างหน้า

“ไทยสมายล์กับการบินไทยจะเร่งหารือข้อสรุปเรื่องเส้นทางการบินในอาเซียน ว่าการบินไทยจะให้เส้นทางกับไทยสมายล์ในเส้นทางใดบ้าง เพราะปัจจุบันได้หมุนเวียนกันบินระหว่าง 2 แบรนด์นี้” วรเนติ กล่าว

เป้าหมายการขยายเส้นทางการบินในกลุ่มซีแอลเอ็มวีและอาเซียนปีนี้ จะทำให้สัดส่วนรายได้ตลาดอาเซียนเพิ่มเป็น 20% เทียบจากปีที่ผ่านมา 8% แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 6,000 ล้านบาท และอาเซียน  2,000 ล้านบาท จีน 2,000 ล้านบาท และอินเดีย 1,000 ล้านบาท

ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย ผู้ให้บริการสายการบินไทย แอร์เอเชีย บอกว่า สายการบินมีเส้นทางการบินในชาติอาเซียน 7 ประเทศ รวมทั้งหมด 14 เส้นทาง เฉลี่ย 30 เที่ยวบิน/วัน ซึ่งถือว่ามีความครอบคลุมสูงสุดของสายการบินในประเทศไทย โดยในอนาคตมีแผนขยายเส้นทางสู่เมืองรองในชาติอาเซียนบินตรงสู่เมืองรองในไทยมากขึ้น

“ความร่วมมืออาเซียน คอนเนค พลัส ที เชื่อว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 19 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมหารือเพื่อดีไซน์แพ็กเกจการเดินทางให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น” ธรรศพลฐ์ กล่าว

ความหวังดันไทยเป็นฮับด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนได้หรือไม่นั้น ต้องอดใจรอการลั่นกลองรบของรัฐบาลไทยว่าจะผลักดันได้มากแค่ไหน