posttoday

อินโดนีเซียทำลายผลไม้ สั่งเผาลองกอง-ชมพู่ที่นำเข้าจากไทย หลังพบแมลงวันต้องห้าม

15 สิงหาคม 2561

อินโดนีเซียเผาทำลายลองกอง-ชมพู่หลายร้อยกิโลที่นำเข้าจากไทย หลังพบแมลงวันทั้งที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงเกษตรฯ ไทย

อินโดนีเซียเผาทำลายลองกอง-ชมพู่หลายร้อยกิโลที่นำเข้าจากไทย หลังพบแมลงวันทั้งที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงเกษตรฯ ไทย

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริม การค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า เมื่อเดือน ก.ค. 2561 หน่วยงานกักกันสินค้าเกษตรท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน ฮัตตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ยึดผลไม้ จากไทย ได้แก่ ชมพู่ 630 กิโลกรัม (กก.) และลองกอง 180 กก. ที่นำเข้ามายังอินโดนีเซีย หลังตรวจสอบพบแมลงอันตรายที่ยังมีชีวิตอยู่ภายใน และผลไม้อยู่ในสภาพเน่าเสีย ทั้งๆ ที่ผลไม้เหล่านี้ นำเข้ามาโดยถูกกฎหมายและมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย โดยได้แยกเก็บผลไม้ ดังกล่าวไว้ที่ห้องเย็นของศูนย์กักกัน เพื่อไม่ให้แมลงและตัวอ่อนสัมผัสอากาศ

ทั้งนี้ ภายหลังจากการตรวจสอบแมลงผลไม้ในห้องแล็บ สามารถระบุได้ว่าเป็นแมลงวันผลไม้ หรือแมลงวันทอง ซึ่งเป็นแมลงอันตรายไม่พบในอินโดนีเซีย และเป็นอันตรายต่อสวนฝรั่งในอินโดนีเซียหากเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้ยังพบเพลี้ยในลองกอง และแมลงวันผลไม้ในชมพู่อีกด้วย นอกจากนี้ ศูนย์กักกันได้ทำลายผลไม้ดังกล่าวทันทีโดยการเผาในเตาเผาความร้อนสูง เพื่อให้มั่นใจว่า แมลงตัวอ่อน และปรสิต ซึ่งเป็นอันตรายกับการเกษตรและสังคมอินโดนีเซียถูกกำจัดอย่างหมดสิ้น

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสุขอนามัยพืชของอินโดนีเซีย ได้ส่งคำเตือนมายังประเทศไทย เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยพืชที่กำหนด และหวังจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นหากยังพบแมลงที่เป็นอันตรายในผลไม้นำเข้าที่ได้รับการรับรองด้านสุขอนามัยจากหน่วยงานของรัฐบาลไทยอีก ในอนาคตหน่วยงานสุขอนามัยพืชของอินโดนีเซีย อาจต้องตรวจสอบผลไม้นำเข้าทั้งหมดโดยละเอียด เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกผลไม้ของไทยไปตลาดอินโดนีเซีย

รายงานข่าวแจ้งว่า สคต.จาการ์ตา เห็นว่า การพบแมลงในสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองสุขอนามัยจากกระทรวงเกษตรฯ ของไทย อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยมายังอินโดนีเซียในอนาคต เพราะไม่เป็นไปตามมาตรฐานการนำเข้าสินค้าเกษตร และอาจกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอินโดนีเซียที่มีต่อผลไม้ไทย ที่สำคัญอาจเป็นการเพิ่มปัญหาทางการค้าสินค้าพืชสวนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย ภายหลังจากที่อินโดนีเซียได้ยกเลิกมาตรการจำกัดระยะเวลานำเข้าพืชสวน เช่น ทุเรียน ลำไย ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ จากเดิมที่จำกัดช่วงระยะเวลาการนำเข้าพืชสวน

นอกจากนี้ จะกระทบต่อการเพิกถอนการผ่อนผันนำเข้าพืชสิ่งต้องห้าม 16 รายการจากไทย โดยอินโดนีเซียเริ่มผ่อนผันการนำเข้ามังคุด ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป และได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงเกษตรฯ ของไทยตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว