ความงามไทย... ไปกัมพูชา (1)

โดย...สดุดี วงศ์เกียรติขจร

ในปัจจุบัน ชาวกัมพูชาที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีและมีกำลังซื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงทำให้แนวโน้มความต้องการรับบริการความงามของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมีเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ดังนั้น การใช้บริการจากแพทย์ผิวหนัง หรือการเดินทางไปเข้าคลินิกความงามเป็นที่นิยมในประเทศกัมพูชามากขึ้น ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่เชื่อมั่นในสินค้าไทยและบริการทางการแพทย์ของไทย จึงหันมานิยมใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผิวพรรณให้ขาวใสขึ้นและรักษาสิวเป็นหลัก ขณะที่การทำศัลยกรรมความงามยังคงได้รับความนิยมในวงจำกัด แต่ก็มีแนวโน้มเติบโตบ้างเช่นกัน

ธุรกิจความงามของไทยในกัมพูชาสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) คลินิกความงามที่ไม่ได้ทำศัลยกรรม 2) คลินิกความงามที่ทำศัลยกรรม 3) ธุรกิจเครื่องมือแพทย์และธุรกิจเครื่องสำอาง เป็นต้น โดยธุรกิจความงามของไทยได้ขยายเข้าไปในประเทศกัมพูชาในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์ เช่น วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก และแพน คลินิก หรือเป็นการเข้ามาลงทุนโดยตรงของผู้ประกอบการเอง ชาวกัมพูชายังนิยมใช้เครื่องสำอางไทยและติดตามกระแสความนิยมทางความสวยความงามตามสื่อต่างๆ โดยชาวกัมพูชามักมีความเชื่อว่ารูปลักษณ์ที่ดีแสดงถึงสถานะทางการเงินและสังคมที่ดีด้วย จึงทำให้กัมพูชานิยมใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ อาทิ สกินแคร์เพื่อผิวขาวใส และรักษาสิว รวมถึงแต่งหน้าบ่อยครั้งอีกด้วย

เมื่อพิจารณากลุ่มลูกค้า (Customer Segments) ของกัมพูชาที่มารับบริการความงามของไทยก็พบว่า สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) ผู้รับบริการที่ใส่ใจความงามและสุขภาพ ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป จำแนกตามช่วงอายุ (Generation Segment) 2) ผู้มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และ 3) ลูกค้าที่เป็นแฟรนไชส์ (Franchise) โดยอาจแยกลูกค้าตามกลุ่มต่างๆ ในตลาด (Market Segmentation) เพื่อจะใช้ข้อมูลนี้ในการทำกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

นอกจากนี้ ธุรกิจความงามไทยยังสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าโดยให้การรับประกันการให้บริการ/ยาและเวชภัณฑ์ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านความงามที่มีฝ่ายขายดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด การลงข้อมูลลูกค้าในระบบบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management : CRM) เพื่อมอบของขวัญ อภินันทนาการ หรือของสมนาคุณตามเทศกาลต่างๆ มีการสะสมยอดเข้ารับการรักษาเพื่อแลกของพรีเมียม และสื่อสังคมต่างๆ (Social Media) ของกิจการ ได้แก่ Facebook, Line, Twitter เป็นต้น