posttoday

"ทรัมป์"จ่อใช้ไม้แข็งเมินWTO

28 กุมภาพันธ์ 2560

ทีมทรัมป์ไม่พอใจระบบดับเบิ้ลยูทีโอหลังไม่เข้าข้างสหรัฐ หวังข้ามขั้นคว่ำบาตรคู่ค้าอย่างจีน

ทีมทรัมป์ไม่พอใจระบบดับเบิ้ลยูทีโอหลังไม่เข้าข้างสหรัฐ หวังข้ามขั้นคว่ำบาตรคู่ค้าอย่างจีน

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า คณะรัฐมนตรีภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กำลังเตรียมวิธีการทางกฎหมายเพื่อข้ามขั้นตอนการใช้ระบบจัดการความขัดแย้งทางการค้าขององค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) เพื่อเริ่มต้นคว่ำบาตรทางการค้ากับจีนและประเทศอื่นๆ

แหล่งข่าวดังกล่าวระบุว่า ปีเตอร์ นาวาร์โร ประธานสภาการค้าแห่งชาติสหรัฐที่วิพากษ์วิจารณ์การค้าของจีนอย่างรุนแรง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันให้หาหนทางอื่นในการบีบประเทศคู่ค้า นอกเหนือไปจากการใช้ระบบของดับเบิ้ลยูทีโอ

การเปิดเผยดังกล่าวสะท้อนความไม่พอใจองค์กรระดับนานาชาติที่มีการดำเนินการขัดกับผลประโยชน์ของสหรัฐ โดยภายในคณะทำงานของทรัมป์นั้น ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันในด้านศักยภาพของระบบดับเบิ้ลยูทีโอไม่เพียงพอต่อการบังคับให้ประเทศสมาชิกทำตามได้ เช่น กรณีอุตสาหกรรมเหล็กที่สหรัฐไม่พอใจต่อการขายเหล็กราคาถูกของจีนและถือเป็นการทุ่มตลาด แต่ดับเบิ้ลยู ทีโอกลับปฏิเสธที่จะใช้วิธีการต่อต้านการทุ่มตลาดตามที่สหรัฐผลักดัน

"ตอนนี้กำลังเกิดความไม่พอใจต่อระบบนี้ของดับเบิ้ลยูทีโอเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการทำให้ประเทศต่างๆ ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในด้านการค้าได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคณะรัฐมนตรีของทรัมป์มีความเห็นต่อมุมมองดังกล่าว" จอห์น เวโรนู อดีตผู้แทนการค้าสหรัฐในสมัยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทมส์

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ร่างแผนการสำหรับงบประมาณประจำปีสหรัฐจะเปิดเผยต่อสาธารณชนภายในอย่างเร็วที่สุดภายในวันที่ 27 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่ทรัมป์จะแถลงนโยบายกับสภา คองเกรสในคืนวันที่ 28 ก.พ.

แหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า ในแผนงบประมาณดังกล่าวประกอบไปด้วยการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง ตามที่ทรัมป์ยืนยันจะลงทุนยกระดับกองทัพที่ถดถอยลงในช่วงที่ผ่านมา และจะลดงบประมาณของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (อีพีเอ) จาก 8,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.9 แสนล้านบาท) ในปีงบประมาณปัจจุบันสิ้นสุดเดือน ก.ย.
 
นอกจากนี้ ไมรอน อีเบลล์ หนึ่งในทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ ระบุว่า ควรปรับลดแรงงานของอีพีเอลง 1 ใน 3 ของขนาดปัจจุบัน ซึ่งมีการจ้างงานทั้งหมด 1.5 หมื่นอัตราทั่วประเทศ