posttoday

สงครามยาเสพติดตาย1,800 ฟิลิปปินส์มุ่งกวาดล้างรุนแรงเมินสิทธิมนุษยชน

24 สิงหาคม 2559

ยอดตายจากคดียาเสพติด 2 เดือน 1,800 ศพ นานาชาติกังวล ชาวบ้านตั้งศาลเตี้ย-ฆ่าแพะ

ยอดตายจากคดียาเสพติด 2 เดือน 1,800 ศพ นานาชาติกังวล ชาวบ้านตั้งศาลเตี้ย-ฆ่าแพะ

ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดถูกสังหารแล้ว 1,800 ราย ในช่วง 2 เดือน ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่งเมื่อ วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นการสังหารที่ไม่ใช่ฝีมือตำรวจ 899 ราย

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุก่อนหน้าว่ามีการสังหารพ่อค้าและผู้ใช้ยาเสพติด 712 รายในช่วงเวลาดังกล่าว และเสริมว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนคดีฆาตกรรมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 1,067 คดี

สงครามกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมอย่างรุนแรงของดูเตอร์เต สร้างกระแสวิจารณ์อย่างหนักถึงการสนับสนุนให้ประชาชนใช้ศาลเตี้ยตัดสินผู้กระทำผิดโดยไม่ต้องไต่สวน ซึ่งอาจนำไปสู่การสังหารผู้บริสุทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาเตือนเมื่อไม่นานมานี้ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ดี ดูเตอร์เต ออกมาตอบโต้ว่าจะถอนตัวออกจากยูเอ็นหากไม่หยุดวิจารณ์

ด้านกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ พันธมิตรใกล้ชิดของฟิลิปปินส์ ก็ออกรายงานแสดงความกังวลและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงดำเนินการภายใต้กรอบสิทธิมนุษยชน แต่ก็ไม่มีผลให้ท่าทีของผู้นำฟิลิปปินส์อ่อนลง

ขณะที่ เลอิมา เดอ ลิมา วุฒิสมาชิกของฟิลิปปินส์แสดงความกังวลว่า สงครามปราบยาเสพติดนี้อาจจะกลายเป็นข้ออ้างของเจ้าหน้าที่บางราย รวมถึงประชาชนในการก่อเหตุฆาตกรรมโดยไม่ต้องรับความผิด พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่แสดงหลักฐานและอธิบายถึงตัวเลขการฆาตกรรมที่สูงขึ้นนี้ ซึ่งเท่ากับมีการสังหารโดยเฉลี่ยวันละ 35 ราย

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจในฟิลิปปินส์กลับไม่มีความกังวลประเด็นดังกล่าว โดย รอยเตอร์ส เปิดเผยว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่เชื่อว่าดูเตอร์เตจะนำพาประเทศไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ต่อเนื่องจากผู้นำคนเก่า และหลายแห่งระบุว่ามีแผนลงทุนเพิ่มในระยะยาว

ผลสำรวจความเห็นของภาคธุรกิจส่วนใหญ่ มองว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กำจัดความล่าช้าในกระบวนการของราชการช่วยให้แนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตมาก ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจบางแห่งเห็นว่ามาตรการปราบปรามอาชญากรรมอย่างรุนแรงช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตจากสถานการณ์ที่สงบในประเทศ