posttoday

'อัครเดช' จี้นายกฯฟันทุนจีนสีเทา-จนท.รัฐเอี่ยวกากแคดเมียม

17 เมษายน 2567

'อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์' ประธานกมธ.อุตสาหกรรม จี้นายกฯเศรษฐาผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ ฟันทุนจีนสีเทา-จนท.รัฐเอี่ยวกากแคดเมียม เรียก 6 หน่วยงานถก 3 ประเด็น ดำเนินคดี-ขนย้ายปลอดภัย-ลดผลกระทบกับภาคประชาชน

ที่อาคารรัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้เชิญ 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ดำเนินการกับกากแร่แคดเมียม

"วันนี้ปลัดกระทรวงอุตสหกรรมได้มาชี้แจงด้วย ทราบจากข่าว ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายในวันที่ 7 พฤษภาคมจะมีการตั้งคำถามว่าทำไมถึงเกิดการเคลื่อนย้ายที่ล่าช้า จึงจะสอบถามถึงการเคลื่อนย้ายให้เร็วขึ้นเพราะประชาชนมีความกังวล ซึ่งการตรวจพบกากแคดเมียมทั้ง 4 ที่ จะดำเนินการอย่างไร จะหาตู้คอนเทนเนอร์มาแพ็คเพื่อไม่ให้เกิดการโปร่งกระจายก่อนได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาหรือผลกระทบต่อประชาชน" 

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการยังไม่ได้ไปลงพื้นที่จริง แต่มีแผนที่จะไปจังหวัดตาก ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ แต่มีการขนย้ายช่วงวันที่ 7 พฤษภาคมซึ่งอาจจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะขนย้ายได้เมื่อไหร่ เพราะเดิมทราบจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า จะขนย้ายวันที่ 17 เมษายน แต่อาจจะต้องสอบถามอีกครั้ง เพราะเลื่อนการขนย้าย 7 พฤษภาคม ซึ่งเราจะต้องทราบเหตุผลในส่วนนี้ 

ในฐานะที่พรรครวมไทยสร้างชาติกำกับดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมและกมธ. อุตสาหกรรม ประสานควบคู่กันอย่างไร นายอัครเดช ระบุว่า  รัฐมนตรี เป็นฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายรัฐบาล ส่วนตนเองในฐานะประธานกรรมาธิการ  ฝ่ายนิติบัญญัติ ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ทำงานคู่ขนานกันไป แม้จะมาจากพรรคเดียวกันแต่บทบาทหน้าที่ก็ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งตนและรัฐมนตรีก็พูดคุยกันเป็นระยะอยู่แล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ได้นิ่งเฉย เมื่อทราบปัญหาเมื่อวันที่ 3 เมษายน วันที่ 5 เมษายน ก็ลงพื้นที่เลย  จนได้พบกับแคดเมียม ครบแล้ว แต่ยังมีตัวเลขที่ต่างกันอยู่ในระบบ ที่ลงทะเบียนไว้ 13,800 ตัน แต่พบจริง 12,400 ตันเศษ ตัวเลขที่ต่างเกิดจากสาเหตุอะไรนั้นก็จะได้ฟังการชี้แจงในชั้นกรรมาธิการ 

ส่วนข้อมูลที่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องและมีส่วนรับผลประโยชน์ ทางกรรมาธิการได้ข้อมูลมาอย่างไร นายอัครเดช ระบุว่ามีผู้มาร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับผลประโยชน์ ในเรื่องของการย้ายกากแร่  ได้ยื่นช่วงเดือนมกราคม  ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าเป็นแร่อะไรและจะขนย้ายไปที่ไหน จึงนำมาสู่การสอบสวน ที่เราทราบเป็นหน่วยงานแรกออกมาแทนข่าวเพื่อให้รัฐบาล ไปดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าระวัง เพราะมีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเข้ามา ซึ่งเป็นความโชคดีที่เราเจอเร็วไม่ต้องรอให้ประชาชนป่วยก่อนแล้วต้องหาสาเหตุว่าป่วยเพราะอะไร 

ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับผลประโยชน์อยู่ในระดับไหน นายอัครเดชระบุว่า ยังไม่แน่ชัด แต่เป็นเจ้าหน้าที่ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งการประชุมวันนี้มี 3 ประเด็น  ที่ต้องติดตาม คือ 1.การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ประกอบการ ละเมิดกฏหมายหรือทำผิดข้อใด จะดำเนินคดีอย่างไร 2.จะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนในการขนย้าย 3.ผลกระทบของประชาชนที่ได้รับ หน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง 

ส่วนเรื่องทุนจีนสีเทาที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง  ในอัครเดช ระบุว่าแน่นอน ผู้ประกอบการต่างประเทศที่เป็นคนจีน ที่ได้ดำเนินการจับกุมไปแล้ว มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด ตั้งแต่ต้นทางที่สมุทรสาคร ก็เป็นคนจีน และทางจังหวัดชลบุรีที่เตรียมจะส่งออกก็เป็นคนจีนเจ้าของโรงงานที่ตรวจพบกากแร่ ก็เป็นคนจีน และเป็นคนที่ทางกรรมาธิการ เคยนำเรื่องเข้าที่ประชุมว่าทำผิดกฎหมาย จนทำให้ ปทส. จับกุมดำเนินคดีมาแล้ว ซึ่งตัวละครที่เป็นคนจีนมีทั้งหมด 3 ตัวละคร  ตัวละครสุดท้ายคือที่ต้นทางที่เป็นโรงหลอม สมุทรสาคร  ฉะนั้นเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายจึงอยากให้นายกรัฐมนตรีทำเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อดำเนินการกับนักลงทุนชาวจีนสีเทา คณะอุตสาหกรรมที่ละเมิดกฎหมาย เพราะ อย่างจังหวัดชลบุรีก็ทำผิดซ้ำซากส่งผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ตรวจพบผู้ป่วย ผู้ป่วยมีสารแคดเมียมเจือปนในฉี่ นั้น เป็นบุคคลในโรงงาน ส่วนบุคคลที่อยู่ภายนอกโรงงานก็เกินค่ามาตรฐานด้วยเช่นกัน มองว่าเรื่องนี้รัฐต้องเข้าไปเยียวยาและผู้ประกอบการก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำความผิดเรื่องนี้ด้วย เพื่อดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ และที่สำคัญสารที่ตกค้างในดินในอากาศ จะดำเนินการตรวจสอบอย่างไรเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ เรื่องนี้กรรมาธิการให้ความสำคัญและจะสอบถามในที่ประชุม 

ส่วนการนำกลับไปฝังที่จังหวัดตาก เพราะเป็นจังหวัดเดียวที่ผ่านอีไอเอ และเป็นไปตามกฎหมายส่วนหากจะนำไปฝังกลบที่จังหวัดข้างเคียงนั้นยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้รองรับ และศาลปกครอง ก็ระบุชี้ชัดแล้วว่าให้ขนย้ายกลับไปที่จังหวัดตากเท่านั้น  

ส่วนข้อกังวลเรื่องการฟุ้งกระจายระหว่างขนย้ายแนะนำให้ภาครัฐดำเนินการการขนย้ายและไปเรียกเก็บค่าขนย้ายกับผู้ประกอบการภายหลังเพื่อให้ได้มาตรฐาน และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน  เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ถ้าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามก็ให้ฟ้องดำเนินคดี