แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตบนความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต บนความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย หรือนายกฯเศรษฐา ตามที่เข้าใจมาก่อนนี้
จนถึงตอนนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต10,000 บาท เป็นความรับผิดร่วมกันของรัฐบาล ไม่ใช่ของเพื่อไทย หรือนายกฯเศรษฐา ทวีสิน อย่างที่เป็นมา
ภาพนายกฯเศรษฐาและเหล่าบรรดารัฐมนตรีร่วมกันออกมาแถลงข่าวในการประชุมครม.เมื่อ23เม.ย.67 เพื่อแสดงจุดยืนในการรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
เหตุผลในการสนับสนุนนโยบายแจกเงินดิจิทัล10,000บาทของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ก็เพื่อให้การขับเคลื่อนโยบายนี้เป็นไปสู่ความสำเร็จด้วยความรวดเร็วมากขึ้น
"ดิจิทัล วอลเล็ต มีพื้นฐานจากนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล ที่เป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง ฉะนั้น ทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลที่ได้ร่วมประชุมครั้งนี้ จึงมีโอกาสรับฟังและสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องและทุกพรรคสนับสนุนนโยบายรัฐบาล"นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุ
แหล่งที่มาของเงินสำหรับแจกให้กับประชาชน สุดท้ายมาจากงบประมาณ 3แหล่ง ประกอบด้วย
- เงินจากงบฯปี2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
- เงินจากงบประมาณปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
- ดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ (ธ.ก.ส) จำนวน 172,300ล้านบาท
นายกฯเศรษฐาได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินธ.ก.ส.ว่า "หลักการของกรอบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส.และสำนักงบประมาณ จะศึกษาในรายละเอียดต่อไป หากมีข้องสงสัยให้สอบถามไปยังกฤษฎีกาตีความ"
อย่างไรก็ตาม มีคำถามตามมาว่า "สภาพคล่องในระบบของไทยมีมากพอสำหรับดำเนินการตามโครงการดังกล่าวหรือไม่"
รมช.คลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ไขปมในเรื่องนี้ว่า "สภาพคล่องในธ.ก.ส.รับกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้ จะมีการเพิ่มทุนให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ย้ำว่า ต้องไม่ลืมธ.ก.ส.ถือหุ้นโดยรัฐบาล 100%"
ทั้งนี้ สหภาพธ.ก.ส.มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการใช้เงินคืนธนาคารดังนี้
1.การใช้เงินดังกล่าวถูกกฎมายหรือไม่ (ส่งกฤษฎีกาตีความแล้ว)
2.ต้องพิจารณาผ่านคณะรัฐมนตรี (ให้ความเห็นชอบแล้ว)
3.สภาพคล่องส่วนเกินของธ.ก.ส.จะมีเพียงพอนำไปใช้ในโครงการหรือไม่
4.รัฐบาลมีแผนตั้งงบประมาณชำระคืนอย่างไร
5.รัฐบาลจะมีการชดเชยต้นทุนค่าดำเนินงานให้ธ.ก.ส.อย่างไร (ตามระเบียบกฎหมาย)
ขณะที่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย แนะ3 แนวทางให้เงินดิจิทัล
1.เลื่อนเป็นไตรมาสที่ 4 นั้นทางหอการค้า มองว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไป
2.ประเด็นการจัดทำ Super App เคยเสนอเรื่องการใช้ App เป๋าตัง เพราะประชาชนคุ้นเคย
3.อยากให้รัฐบาลมีมาตรการจูงใจให้ร้านค้าที่ยังไม่เข้าระบบภาษีได้เข้ามาเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะกลุ่มนี้ อาจมีความกังวลเรื่องภาษี ก็จะทำให้โครงการนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ณ เวลานี้ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล