posttoday

ตลท.เผยปี 59 บจ.กำไร 9.09 แสนล้านบาท

06 มีนาคม 2560

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยบริษัทจดทะเบียนมีกำไรในปี2559 รวม 9.09 แสนล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยบริษัทจดทะเบียนมีกำไรในปี2559 รวม 9.09 แสนล้านบาท

ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท จดทะเบียน (บจ.) ใน SET จำนวน 567 บริษัท หรือคิดเป็น 96.10% จากทั้งหมด 590 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF & REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และ บริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงาน งวดปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 บจ. มีกำไรสุทธิจำนวน 461 บริษัท คิดเป็น 81.31% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

โดย บจ. มีต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลงทำให้มีกำไรขั้นต้น 2,502,380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.37% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และไม่มีผลกระทบค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 908,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.41% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยมียอดขายรวม 10,125,805 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลจากหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์มียอดขายลดลง อันเป็นผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเฉลี่ยในปี 2559 ต่ำลงประมาณ 20% จากปีก่อน

อย่างไรก็ดี หากไม่รวมธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ในปี 2559 ภาพรวมของกลุ่มธุรกิจอื่นยังคงมีผลประกอบการปรับดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.15% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7.42% เมื่อเทียบกับปี 2558

สำหรับผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 4/2559 บจ. มีกำไรสุทธิ 204,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.15% จากไตรมาส 4/2558 และลดลง 1.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2559

ความสามารถด้านการทำกำไรของ บจ. ปรับสูงขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 24.69% เพิ่มขึ้นจาก 22.28% ในปี 2558 และมีอัตรากำไรสุทธิ 8.95% เพิ่มขึ้นจาก 6.70% ขณะที่โครงสร้างเงินทุนของ บจ. ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ 1.19 เท่า ลดลงจาก 1.20 เท่า ในช่วงสิ้นปี 2558

“ในปี 2559 บจ. มีผลประกอบการดีขึ้นสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวด้านการอุปโภคบริโภค และเป็นปีที่ บจ. มีกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะในหมวดธุรกิจที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐบาล คือ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดวัสดุก่อสร้าง หมวดพาณิชย์ และหมวดการแพทย์ และหากพิจารณาในมิติของ บจ. ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่มตามนโยบาย Thailand 4.0 พบว่ากลุ่ม บจ. ดังกล่าวมีผลประกอบการในเกณฑ์ดีและแข็งแรงมาก โดยมีกำไรสุทธิเติบโตราว 20% จากปี 2558”

“ผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2559 บจ. mai มีกำไรสุทธิ 3,890 ล้านบาท ลดลง 8.73% เมื่อเทียบกับปี 2558 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายการพิเศษในบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง และสำหรับในไตรมาส 4/2559 มีขาดทุนสุทธิ 472 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 4/2558 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 233 ล้านบาท”ดร. สันติกล่าว