posttoday

"ธอส."สั่งขึงดอกเบี้ยกู้บ้านต่ำสุดในตลาด

19 มิถุนายน 2560

ธอส.สั่งขึงดอกเบี้ยต่ำที่สุดในตลาด เตรียมขนสินเชื่อใหม่ออกช่วงครึ่งปีหลังดันยอดปล่อยกู้ตามเป้า 1.78 แสนล้าน

ธอส.สั่งขึงดอกเบี้ยต่ำที่สุดในตลาด เตรียมขนสินเชื่อใหม่ออกช่วงครึ่งปีหลังดันยอดปล่อยกู้ตามเป้า 1.78 แสนล้าน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.จะพยายามไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไปจนกว่าจะถึงสิ้นปี แม้ขณะนี้จะเป็นช่วงของดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากขณะนี้ธนาคารยังสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากและเงินกู้ไว้ในระดับเดิมได้ แต่ถ้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายคงจะต้องหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูง 6 สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยอีกครั้ง

“ตอนนี้ประเมินกันว่า กนง.ยังไม่น่าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วๆ นี้ แต่หากมีการปรับขึ้นจริง ธนาคารก็จะขึ้นให้ช้าที่สุด โดยจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากสุดเพียงแค่ครั้งเดียว 0.125% แต่ถ้าดอกเบี้ยนโยบายขึ้นปลายปีนี้ในอัตราที่ไม่สูง ธนาคารอาจไม่ขึ้นเลยในปีนี้ โดยปัจจุบัน ธอส.มีดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ที่ 6.25% เอ็มโออาร์ 7% เอ็มอาร์อาร์ 6.75% ซึ่งเฉลี่ยต่ำที่สุดในตลาดสินเชื่อ” นายฉัตรชัย กล่าว

ทั้งนี้ ธอส.ยังมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2560 ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1.78 แสนล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกปล่อยได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% โดยในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารมีแผนจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ออกมารองรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายระยะยาวภายใต้การบริหารในปี 2563 เพื่อให้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็น 1 ใน 3 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ และมีสินเชื่อรวม 1.15 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท

ปัจจุบันธนาคารมีโครงการสินเชื่อที่หลากหลายเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม และได้พัฒนากระบวนการทำงาน เช่น การจัดทำศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและควบคุมคุณภาพในการพิจารณาสินเชื่อได้

สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 พ.ค. 2560 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 1.63 แสนล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 9.47 แสนล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.60% เงินฝากรวม 8.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.04% สินทรัพย์รวม 9.94 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.25% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 5.08 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5.37% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลง 0.40% และมีกำไรสุทธิ 4,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32%