posttoday

ผุดแพ็กเกจใหม่หนุนเอสเอ็มอี

22 กรกฎาคม 2559

คลังเสนอแพ็กเกจใหม่ช่วยเอสเอ็มอี ชูพี่ช่วยน้อง ลดภาษี 2 เท่า ผุดกองทุน 2,000 ล้าน เสริมสภาพคล่อง ผู้ประกอบการ เสนอ ครม.สัปดาห์หน้า

คลังเสนอแพ็กเกจใหม่ช่วยเอสเอ็มอี ชูพี่ช่วยน้อง ลดภาษี 2 เท่า ผุดกองทุน 2,000 ล้าน เสริมสภาพคล่อง ผู้ประกอบการ เสนอ ครม.สัปดาห์หน้า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME Rescue Center) ว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการใหม่เพื่อส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งโครงการพี่ช่วยน้อง โดยเปิดให้บริษัทขนาดใหญ่ที่นำรายได้ไปสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่า

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะจัดตั้งกองทุนใหม่เพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปเพิ่มทุนและเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากปัญหาหลักของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คือ เรื่องการเงิน และเตรียมนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า

"นายกรัฐมนตรีได้รับร้องเรียนปัญหาของเอสเอ็มอี ในงานเอสเอ็มอีที่ผ่านมา ท่านมีความกังวลกับปัญหาของผู้ประกอบการอย่างมาก ทำไมเราถึงช่วยเขาไม่ได้ จึงได้กำชับให้หาทางช่วยเอสเอ็มอีทั้งประเทศให้ได้" นายสมคิด กล่าว

นอกจากนี้ อยากให้ภาคสถาบันการเงินของไทย โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ ทั้งเจ้าหน้าที่ องค์กรต้องเปลี่ยนความคิดในการให้สินเชื่อใหม่ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงหลักทรัพย์ แต่ต้องหาทางทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ และส่งเสริมการสร้างธุรกิจให้เติบโต หาทางผลักดันสร้างผู้ประกอบการใหม่ออกมาสู่ประเทศมากที่สุด ซึ่งสถาบันการเงินต้องหาทางสร้างนวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่ ส่งเสริมเอสเอ็มอี ส่วนธนาคารเอกชน เป็นสิทธิของธนาคารที่จะบริหารจัดการให้ สินเชื่อเอง

"สถาบันการเงินของรัฐ ที่จะปล่อยสินเชื่อ ไม่ควรที่ดูหลักทรัพย์ว่ามีเท่าไหร่ อย่างนั้นไม่ควรมีสถาบันการเงิน ผมเปิดเป็นโรงรับจำนำทั่วประเทศดีกว่า สถาบันการเงินต้องปรับความคิด เจ้าหน้าที่ บุคลากร ทุกคนต้องหาทางที่จะสนับสนุนธุรกิจเล็กๆ ให้เติบโตมากขึ้น" นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้ อยากให้เห็นความสำคัญในการส่งเสริมเอสเอ็มอี เพราะจะช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เอสเอ็มอี 1 ราย สามารถจ้างงานได้ถึง 5-10 คน ปัจจุบันที่มีเอสเอ็มอีในประเทศ 3 ล้านราย มีการจ้างงานแห่งละ 5-6 คน หากประเทศไทยสามารถสร้างเอสเอ็มอีได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในอนาคต ก็จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวได้เช่นกัน

นายสมคิด กล่าวต่อว่า กำลังหารือกับ รมว.อุตสาหกรรม ที่จะปรับโครงสร้างกระทรวงครั้งใหญ่ มุ่งทำหน้าที่ส่งเสริมและสร้างผู้ประกอบการรายใหม่แห่งอนาคต รวมถึงหน่วยงานในกระทรวง ทั้งกรมโรงงาน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ต้องปรับบทบาทใหม่ เพื่อสร้างผู้ประกอบการสมัยใหม่ให้เติบโตเป็นบริษัทใหญ่ในตลาดโลก พร้อมกับผลักดันให้ผู้ประกอบการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การปรับโครงสร้างของกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนข้างหน้า