ระดมช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีภาคใต้
สสว.เร่งดูแลเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบน้ำท่วมใต้ สำรองเงินกองทุน 3,000 ล้าน หารือหอการค้า ส.อ.ท. สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยให้การช่วยเหลือ
สสว.เร่งดูแลเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบน้ำท่วมใต้ สำรองเงินกองทุน 3,000 ล้าน หารือหอการค้า ส.อ.ท. สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยให้การช่วยเหลือ
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ สสว.ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานกับศูนย์บริการครบวงจร หรือศูนย์โอเอสเอสของ สสว. ที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 แห่ง ให้ติดตามข้อมูลของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและความต้องการความช่วยเหลือ พร้อมกับประสานงานหน่วยงานรัฐเพื่อดูความต้องการอื่นเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน สสว.ยังได้หารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อสอบถามสมาชิกของแต่ละกลุ่มว่าได้รับผลกระทบและมีความเดือดร้อนด้านใดบ้าง เพื่อรวบรวมปัญหาของผู้ประกอบการและแนวทางในการส่งเสริมระยะต่อไป ซึ่งในเบื้องต้น สสว.มีเงินกองทุนรวมจำนวน 3,000 ล้านบาท สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ได้
นางสาลินี กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ได้ลงนามในระเบียบให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีตามมาตรการฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน 2,000 ล้านบาทแล้ว พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทำหน้าที่กำกับดูแลการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการข้างต้น
นายณพพงศ์ ธีระวร ประธาน สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สถาน การณ์น้ำท่วมภาคใต้ทำให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ ทั้งเอสเอ็มอีภาคการเกษตรและผู้ประกอบการร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีจำนวนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเท่าใด จึงอยากให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการ หรือโปรแกรมช่วยเหลือเพื่อเร่งบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการ
"ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้ร่วมมือให้ความ ช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยเปิดรับความช่วยเหลือผ่านการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบแล้ว" นายณพพงศ์ กล่าว