"อียู"ขึ้นทะเบียนข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง

อียูขึ้นทะเบียนข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงของไทยตีตราจีไอแล้ว มีผล 1 พ.ย.นี้ มั่นใจช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าส่งออก

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ สหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศลงใน Official Journal of the European Union ขึ้นทะเบียนข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงของไทยเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ในสหภาพยุโรปแล้ว โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2559 หรือ 20 วันนับจากที่ประกาศ ซึ่งถือเป็นสินค้ารายการที่ 4 ของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นจีไอในสหภาพยุโรปต่อจากข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง

ทั้งนี้  กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับกรมการข้าวได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนจีไอข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงในอียู เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2556 โดยอียูได้ใช้เวลาในการตรวจสอบคำขอและต่อมาได้ประกาศโฆษณา เพื่อเปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียคัดค้าน เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2559 ซึ่งเมื่อไม่มีผู้คัดค้าน จึงได้ประกาศรับขึ้นทะเบียนจีไอข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงของไทยเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมา

“นับเป็นความสำเร็จของสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และทรัพย์สินทางปัญญาไทยในเวทีระดับโลก ที่ตลาดใหญ่เช่น สหภาพยุโรปได้เห็นถึงคุณสมบัติและเอกลักษณ์พิเศษของข้าวไทย โดยยอมรับว่าเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความโดดเด่นแตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันจากแหล่งผลิตอื่นๆในโลก เป็นไปตามมาตรฐานที่สหภาพยุโรปได้กำหนดไว้ จึงได้ขึ้นทะเบียนจีไอให้สินค้าไทย” นางอภิรดี กล่าว

สำหรับข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เป็นข้าวเจ้าพันธุ์สังข์หยด มีลักษณะเมล็ดข้าวเรียวเล็ก อ่อนนุ่ม ข้าวเปลือกสีฟาง ข้าวกล้องสีแดง เมื่อขัดสีแล้วเมล็ดจะมีสีขาวปนแดงแกมชมพูเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน โดยต้องปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดพัทลุงเท่านั้น เนื่องจากจังหวัดพัทลุงเป็นพื้นที่ราบลุ่มเกิดจากการทับถมของตะกอนลำน้ำ ระหว่างแนวเขาบรรทัด  และทะเลสาบสงขลาดินฟ้าอากาศ เหมาะสำหรับการปลูกข้าวและด้วยความอร่อยของข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง คนในพื้นที่จึงเล่าขานกันว่า ข้าวนี้อร่อยจนต้อง “สั่งหยุด” เป็นที่มาของชื่อข้าว “สังข์หยด” เมืองพัทลุง

อย่างไรก็ตาม ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงได้รับขึ้นทะเบียนในไทย เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2549 ถือเป็นรางวัลในการฉลองข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงขึ้นทะเบียนเป็นจีไอในไทยครบ 10 ปี ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นจีไอในอียู โดยก่อนขึ้นทะเบียนเป็นจีไอในไทยข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงมีราคาขายปลีกประมาณ 50 บาท/กก. หลังได้ขึ้นทะเบียนเป็นจีไอราคาเพิ่มขึ้นเป็น 80-90 บาท/กก.

นางอภิรดี กล่าวว่า การได้ขึ้นทะเบียนจีไอข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงของไทยในอียู จะเป็นประโยชน์กับผู้ผลิตผู้ประกอบการข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง โดยเฉพาะการทำตลาดในอนาคตจะช่วยในเรื่องภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ว่าข้าวไทยได้รับการยอมรับมาตรฐานจีไอในต่างประเทศ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าจีไอไทย และจะสามารถเพิ่มยอดการส่งออกข้าวได้ในอนาคต

ปัจจุบันข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงมีกำลังการผลิตรวมทั้งจังหวัดต่อปี 7,703 ตันข้าวเปลือก และส่งออกยังประเทศต่างๆ เช่น จีน สิงคโปร์อินเดีย และมาเลเซีย เป็นต้น แต่ยังส่งออกในปริมาณยังไม่มากนักเนื่องจากพื้นที่การปลูกมีอยู่อย่างจำกัด จึงคาดว่าการขึ้นทะเบียนจีไอในอียูจะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาปลูกข้าวชนิดนี้มากขึ้น เพราะปัจจุบันกำลังได้รับความสนใจจากตลาดสหภาพยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เป็นต้น