posttoday

รถร่วมฯหวั่นพิษหนี้ ทำชวดสัญญาใหม่

29 กันยายน 2559

รถร่วมฯ โอดไม่ยุติธรรม ค้างหนี้ ขสมก. 400 ล้าน เพราะนโยบายรัฐบาล หวั่นไม่ได้ต่อสัญญาปี 2561

รถร่วมฯ โอดไม่ยุติธรรม ค้างหนี้ ขสมก. 400 ล้าน เพราะนโยบายรัฐบาล หวั่นไม่ได้ต่อสัญญาปี 2561

นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน รถโดยสารร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาชิกรถร่วมฯ ต่างมองว่าไม่ยุติธรรมหากกรมการขนส่งทางบกจะไม่ต่อสัญญาใบอนุญาตฉบับใหม่ในปี 2561 ให้กับเอกชนที่มีภาระหนี้คงค้างกับ ขสมก. เนื่องจากหนี้สินดังกล่าวเกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลยุคก่อน ซึ่งต้องการชะลอการขึ้นค่าโดยสารจากปัญหาราคาน้ำมันดีเซลราคาสูง โดยการให้ส่วนลดค่าตอบแทนที่จัดเก็บจากผู้ประกอบการ ในอัตรารถโดยสารธรรมดาคันละ 120 บาท/วัน และรถโดยสารปรับอากาศคันละ 200-300 บาท/วัน

“หนี้ที่เกิดขึ้นมากว่า 400 ล้านบาทนั้น ล้วนไม่ใช่ภาระของเอกชน แต่เป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลทั้งสิ้น โดยเฉพาะนโยบายชะลอขึ้นค่าโดยสารที่รัฐสัญญาว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้ เพื่อแลกกับการตรึงราคาค่าโดยสาร พอสุดท้ายเปลี่ยนรัฐบาลทาง ขสมก. กลับมาเรียกเก็บเงินกับเอกชน” นายวิทยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมจะเข้ายื่นหนังสือกับนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ในช่วงกลางเดือน ต.ค. เพื่อชี้แจงปัญหาดังกล่าวตลอดจนขอความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายสถานะทางการเงินไม่ดี จึงมีโอกาสสูงที่จะต้องหยุดให้บริการหากกรมการขนส่งทางบกไม่ต่อสัญญาใบอนุญาตฉบับใหม่ในปี 2561

ทั้งนี้ ปัจจุบันรถร่วมฯ เกือบ 50% ต้องหยุดให้บริการเดินรถเพราะขาดทุน ดังนั้นถ้าไม่ได้ต่อสัญญาใหม่ก็จะไม่มีเงินจ่ายหนี้ดังกล่าว ส่วนแนวโน้มเส้นทางการเดินรถในอนาคตระหว่างรถร่วมฯ และรถ ขสมก.นั้นยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากเอกชนไม่มีส่วนร่วมพิจารณาการปรับปรุงเส้นทาง

ด้าน นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุลผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า หนี้สินของผู้ประกอบการที่เกิดขึ้นกว่า 400 ล้านบาทนั้น สะสมมาตั้งแต่ปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมและค่าส่วนแบ่งรายได้ของเที่ยววิ่งอัตราคันละ 10-15 บาท/คัน/วัน ซึ่งเป็นภาระของผู้ประกอบการที่ต้องชดใช้

อย่างไรก็ตาม ขสมก.จะเปิดโอกาสให้ทำเรื่องขอผ่อนชำระยอดหนี้ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 เพื่อโอกาสการต่อสัญญาฉบับใหม่กับกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้หากผู้ประกอบการรายใดไม่ยอมชำระหนี้ ทาง ขสมก.จำเป็นต้องฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนเงินคงค้างดังกล่าวต่อไป

ภาพประกอบข่าว