posttoday

ผนึกจีนหนีเบร็กซิต อังกฤษร่วมทางสายไหม

18 ธันวาคม 2560

รัฐบาลอังกฤษและจีนประกาศยกระดับความร่วมมือทางด้านการเงินและการลงทุนร่วมกันครั้งใหญ่ ขณะที่เส้นตายการถอนตัวออกจากอียูกำลังงวดเข้ามา

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

รัฐบาลอังกฤษและจีนประกาศยกระดับความร่วมมือทางด้านการเงินและการลงทุนร่วมกันครั้งใหญ่ โดยอังกฤษจะสนับสนุนโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง (One Belt One Road) ของจีนภายใต้กรอบวงเงินสูงสุดถึง 2.5 หมื่นล้านปอนด์ (ราว 1.08 ล้านล้านบาท) ท่ามกลางความพยายามเพิ่มปริมาณการค้ากับประเทศอื่นๆ นอกกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ในขณะที่เส้นตายการถอนตัวออกจากอียู หรือเบร็กซิต กำลังงวดเข้ามาในเดือน มี.ค. 2019 นี้

เอพีและบีบีซีรายงานว่า ในระหว่างที่ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ เดินทางเยือนจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อังกฤษได้ประกาศความร่วมมือด้านการลงทุนกับจีน โดยจะขยายบทบาทของอังกฤษในโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง ด้วยการสนับสนุนธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการสนับสนุนทางการเงิน อาทิ การค้ำประกันสินเชื่อ โดยมี ดักลาส ฟลินท์ อดีตประธานธนาคารเอชเอสบีซี เป็นทูตพิเศษของอังกฤษในโครงการนี้

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงกองทุนการลงทุนทวิภาคี ในวงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 หมื่นล้านบาท) ที่มี เดวิด คาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลักในโครงการด้วย โดยจะเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ท่าเรือ และทางรถไฟ ที่เชื่อมต่อระหว่างจีนกับบรรดาประเทศหุ้นส่วน ภายใต้เส้นทางสายไหมยุคใหม่สู่ยุโรปด้วย เพื่อเน้นการสร้างงานและเพิ่มการเชื่อมต่อทางการค้าระหว่างกัน

รองนายกรัฐมนตรี หม่า ไค ของจีน กล่าวว่า ทั้งสองประเทศยังเห็นชอบให้ส่งเสริมความร่วมมือกันขึ้นไปสู่อีกระดับในหลายภาคส่วน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รถไฟความเร็วสูง และการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน

สำหรับความร่วมมือในด้านการเงินนั้น ทั้งสองประเทศยังเห็นชอบการเร่งโครงการเชื่อมตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน-เซี่ยงไฮ้ ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้นักลงทุนทั้งสองประเทศสามารถซื้อขายหุ้นระหว่างกันได้โดยตรง รวมถึงเห็นชอบการจัดตั้งโครงการเชื่อมต่อตลาดตราสารหนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของการเปิดตลาดให้จีนเข้าถึงธุรกิจการจัดการสินทรัพย์ในอังกฤษ การสนับสนุนให้ใช้เงินหยวนในการชำระค่าสินค้าและบริการ

ผนึกจีนหนีเบร็กซิต อังกฤษร่วมทางสายไหม

ทั้งนี้ ความตกลงเรื่องการเชื่อมตลาดหุ้น 2 ประเทศนั้นมีการเจรจากันมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ทว่าความคืบหน้าเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากอังกฤษมีการลงประชามติเบร็กซิตในเวลาต่อมา และเผชิญกับปัญหาติดขัดหลายด้านจนถึงปัจจุบัน 

“สหราชอาณาจักรมีความโดดเด่นเหนือกว่าในเรื่องการเงิน และมีการพัฒนาทางด้านการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีศักยภาพสูงที่จะร่วมมือกัน และทำให้ความร่วมมือทางการเงินเป็นแสงสว่างเรืองรองครั้งใหม่ในยุคทองแห่งความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอังกฤษ” หม่า กล่าว

ทั้งนี้ อังกฤษและจีนได้ลงนามความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันเป็นมูลค่าราว 1,900 ล้านดอลลาร์ (ราว 6.06 หมื่นล้านบาท) ท่ามกลางความต้องการเพิ่มการค้ากับประเทศนอกกลุ่มอียูมากขึ้น หลังจากที่การส่งออกไปจีนยังมีมูลค่าเพียง 1.68 หมื่นล้านปอนด์/ปี (ราว 7.27 แสนล้านบาท) เมื่อเทียบกับการส่งออกไปอียูซึ่งอยู่ที่ 2.3 แสนล้านปอนด์/ปี (ราว 9.96 ล้านล้านบาท)

รายงานระบุว่า การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-อังกฤษนั้นมีขึ้นเป็นประจำทุกปี ทว่าการประชุมปีนี้ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษเนื่องจากอังกฤษกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการเบร็กซิต ที่คาดว่าจะทำให้ต้องเร่งยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศพันธมิตรนอกกลุ่มอียูให้มากขึ้น โดยการเยือนของรัฐมนตรีคลังอังกฤษครั้งนี้ยังมาพร้อมกับ มาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และคณะนักธุรกิจจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่จากอังกฤษ จะให้การสนับสนุนทางการเงินในโครงการความริเริ่ม 1 แถบ 1 เส้นทาง ของจีน เป็นเงินอย่างน้อย 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (กว่า 6.5 แสนล้านบาท) จากเดิมที่โครงการดังกล่าวได้เงินสนับสนุนแล้วกว่า 1.13 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 3.67 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นสัดส่วนการอัดฉีดเงินจากจีนมากที่สุด