posttoday

จีนสั่งธนาคารกลางคุมเข้มการเงิน

17 กรกฎาคม 2560

จีนเพิ่มอำนาจธนาคารกลางดูแลความเสี่ยง ตั้งคณะช่วยดูเสถียรภาพอีกทาง หวั่นคุมเข้มภาคธุรกิจ

จีนเพิ่มอำนาจธนาคารกลางดูแลความเสี่ยง ตั้งคณะช่วยดูเสถียรภาพอีกทาง หวั่นคุมเข้มภาคธุรกิจ

ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานภาคการเงินแห่งชาติครั้งที่ 5 ว่า ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) จะขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในด้านการจัดการเฝ้าระวังระดับมหภาค เพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างเป็นระบบในระบบการเงินของจีน โดยสี ย้ำด้วยว่า ความมั่นคงทางการเงินถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ และจีนก็จะสนับสนุนความเป็นผู้นำในภาคการเงินภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเองด้วย

นอกจากนี้ ทางการจีนยังประกาศจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาและดูแลเสถียรภาพทางการเงิน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะรัฐมนตรีด้วย

“การเงินนั้นเปรียบเสมือนได้กับชีพจรและเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ” สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างคำกล่าวของสีจิ้นผิง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมของคณะกรรมการดังกล่าว รวมถึงบทบาทเพิ่มเติมของพีบีโอซีว่าจะกำกับดูแลความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มเติมขึ้นอย่างเดิม อย่างไร

รอยเตอร์สรายงานว่า การกำกับดูแลภาคการเงินจีนที่ยังไม่เป็นเนื้อเดียวกันดีนัก ทำให้ทางการจีนกังวลต่อปัญหาจระเข้ยักษ์ ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยบรรดามหาเศรษฐีซึ่งมักใช้ช่องโหว่ทางการเงินเข้าไปกว้านซื้อกิจการบริษัทต่างๆ ส่งผลให้เงินทุนถูกใช้ไปกับการซื้อสินทรัพย์ ไม่ใช่การลงทุนที่ทำให้ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงเติบโตขึ้น  

เมื่อต้นปีนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลธุรกิจประกันในจีน (ซีไออาร์ซี) ได้ลงโทษห้ามประธานบริษัทฟอร์ซีเกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากฝ่าฝืนกฎเกี่ยวกับการใช้เงินทุนของบริษัท นอกจากนี้ ซีไออาร์ซียังห้ามบริษัทเอฟเวอร์แกรนด์ ไลฟ์ ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นเป็นเวลา 1 ปี หลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ไม่ปกติ

ปัจจุบัน นอกจากซีไออาร์ซีแล้ว หน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการเงินในจีนยังได้แก่ คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (ซีบีอาร์ซี) และคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์จีน (ซีเอสอาร์ซี) 

เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา มาตรการรับมือวิกฤตการณ์ตลาดหุ้นที่ยังไม่ประสานและรับมือกับปัญหาได้ดีพอ ส่งผลให้รัฐบาลจีนหันมาเพิ่มความใส่ใจต่อเรื่องนี้มากขึ้น และนายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียง ยังออกโรงวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงินที่รับมือได้ไม่ดีพอ

ทั้งนี้ การยกเครื่องกำกับดูแลทางการเงินที่เข้มข้นขึ้น มีขึ้นก่อนที่จีนกำลังจะเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี และเป็นที่คาดว่าจะมีการต่ออายุให้ประธานาธิบดีสี ได้นั่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์อีกสมัย

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า โดยปกติแล้วการประชุมด้านการเงินจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แต่ในครั้งนี้ ประธานาธิบดีเข้ามาดูด้วยตนเอง พร้อมยังมีคนจากหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชั่นและที่ปรึกษาของรัฐสภาเข้ามาร่วมประชุมด้วย

ภาพ...เอเอฟพี