ป๊าม๊าไม่ปลื้ม! หลักสูตรเพศศึกษาใหม่สำหรับเด็กจีน

หลักสูตรเพศศึกษาแก่เด็กนักเรียนชาวจีนหลักสูตรใหม่ กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์ถึงความเหมาะสมบนโลกออนไลน์ขณะนี้

ระบบการศึกษาของจีนได้เปลี่ยนแปลงปฏิรูปครั้งสำคัญด้วยการนำเสนอหลักสูตรเพศศึกษาใหม่สำหรับเด็กๆชั้นประถม แต่ดูเหมือนว่าบรรดาคนเป็นพ่อเป็นแม่เองจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นัก

ในหลักสูตรใหม่ เด็กนักเรียนเกรด 2 จะได้เรียนเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และความใฝ่ฝันในชีวิตของพวกเขา ไม่ว่าอะไรที่พวกเขาอยากเป็นนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ เด็กผู้หญิงสามารถที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เป็นนักบินอวกาศได้ ในขณะที่เด็กผู้ชายเองก็สามารถที่จะเป็นพยาบาล และคุณครูอนุบาลได้ด้วยเช่นกัน

และพวกเขายังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการให้กำเนิดชีวิตว่าทารกนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? พร้อมภาพอธิบายประกอบอีกด้วย

 "พ่อและแม่ท่านทั้งสองคนรักกัน" "อวัยวะเพศของพ่อสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของแม่" "สเปิร์มของพ่อเดินทางเข้าไปในมดลูกของแม่"

และสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับการสัมผัสเรือนร่างอย่างไม่เหมาะสม เด็กๆจะได้ตระหนักถึงอันตราย และการละเมิดที่ไม่ได้มาจากแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น ตแยังรวมถึงบรรดาญาติๆอีกด้วย นอกจากนี้พวกเขายังจะได้เรียนรู้ว่าการตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ชาย และผู้หญิง

ในภาพด้านบนคุณลุงกล่าวกับหลานสาวว่า "หงส์ หลานโตและสวยขึ้นมาก ลุงซื้อเสื้อกล้ามมาให้ หลานอยากจะถอดเสื้ออก และให้ลุงช่วยใส่เสื้อกล้ามมั้ย?" ด้านหลานสาวตอบกลับว่า "ขอบคุณคุณลุง หนูสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เอง คุณพ่อกำลังทำอาหารกลางวันอยู่ในครัว และหนูจะเข้าไปช่วยค่ะ"

ส่วนในภาพด้านล่าง คุณป้ากล่าวกับหลานชายว่า "จุน หลานสูงขึ้นมาก ไหนลองถอดกางเกงออกสิ ป้าอยากดูว่าน้องชายเธอยาวแค่ไหนแล้ว" ด้านหลานชายตอบกลับไปว่า "ไม่ครับ ผมจะกลับบ้านแล้ว" และเด็กน้อยคิดว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่ฟังหากเกิดเหตุการณ์ในทำนองดังกล่าวขึ้น เด็กๆเรียนรู้ว่าควรรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่

 คุณพ่อคุณแม่ ลุงหวังข้างบ้านเราพยายามที่จะแตะก้นของหนู และหนูบอกว่าไม่" เด็กหญิงรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเธอ "คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุงต้องการจับจู๋ของผม ปละผมบอกปฏิเสธ" เด็กชายกล่าว "ถ้าเขาทำแบบนั้น เราจะแจ้งตำรวจ" คุณแม่กล่าว

ภายใต้หลักสูตรใหม่นี้ เด็กๆยังได้เรียนรู้ว่าบนโลกใบนี้มีคนที่รักคนต่างเพศ และคนที่รักเพศเดียวกัน ซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และในชั้นเรียนเกรด 5 เด็กๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง HIV พร้อมเรียนรู้ว่าถุงยางคือเครื่องมือที่ดีในการป้องกัน และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เช่นจากภาพด้านล่าง ทั้งคู่รักต่างเพศ และคู่รักเกย์ต่างตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ถุงยาง เมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะมีเพศสัมพันธ์

 

ในบทเรียนเกี่ยวกับการแต่งงาน เด็กๆจะถูกสอนว่า ผู้คนมีสิทธิเลือกที่จะแต่งงาน หรืออยู่เป็นโสด ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกอย่างไรก็ตามนั่นเป็นสิทธิของพวกเขา ที่ทุกคนต้องยอมรับ นอกจากนั้นยังเรียนรู้ว่าไม่ว่าบุคคลคนนั้นจะเป็นเพศอะไรก็ตาม ทุกคนสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน

หญิงสาวเล่าให้ครอบครัวฟังว่าเธอถูกบริษัทบีบให้ออกจากตำแหน่ง เพราะเธอเป็นบุคคลรักเพศเดียวกัน สมาชิกครอบครัวต่างพากันสนับสนุนเธอ และบอกให้เธอต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง

เด็กชาวจีนยังได้เรียนรู้อีกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหนก็ตาม ทุกๆคนสามารถมีชีวิตรักที่โรแมนติกได้ และต้องตระหนักว่าในบางประเทศนั้นการแต่งงานของคนเพศเดียวกันยังคงเป็นเรื่องผิดกฏหมาย

จากภาพด้านล่าง ชายคนหนึ่งเล่าว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้กลับมาทานข้าวเย็นกับสามีของเขาทุกวันหลังเลิกงานและแน่นอนเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะแต่งงานกันแล้ว พวกเขามีสิทธิที่จะรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมได้

 ภาพประกอบแสดงให้เห็นว่า คู่รักเกย์ และคู่รักเลสเบี้ยนสามารถเป็นพ่อและแม่ที่ดีได้

ชาวเน็ตหลายคนเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณแม่ โดยเชื่อว่าข้อมูลพวกนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กๆได้ "ภาพที่แสดงให้เห็นว่าผู้ชาย และผู้หญิงนั้นมีเซ็กส์กันยังไงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เอามากๆ" หนึ่งในผู้ใช้งาน Weibo กล่าว

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตจีนหลายคนพากันปรบมือให้กับหลักสูตรใหม่นี้ โดยระบุว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแท้จริง "การให้ลูกหลานเรียนรู้เกี่ยวกับเซ็กส์ จะช่วยให้พวกเขาสามารถป้องกันตนเองได้ในอนาคต" หนึ่งในความคิดเห็นกล่าว

ด้านคุณหมอท่านหนึ่งออกมากล่าวยกย่องความกล้าหาญของการสร้างหลักสูตรดังกล่าว และความคิดเห็นของเขาถูกแขร์เป็นไวรัลบนโลกออนไลน์เช่นกัน "ทุกวันนี้โฆษณาทำแท้งมีอยู่ทั่วประเทศ และหากผู้ใหญ่คนใดยังต่อต้านหนังสือเล่มนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเพศศึกษาที่พวกเขาได้เรียนรู้มานั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง" คุณหมอกล่าว "เพศศึกษาปกป้องเด็กๆจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าทุกคนทำเรื่องเพศให้เป็นเรื่องเปิดเผย ไม่ใช่เก็บซ่อนมันเอาไว้"

กลุ่ม LGBT ในจีนเองก็ออกมากล่าวยกย่องหลักสูตรดังกล่าวเช่นกัน โดยพวกเขาระบุว่า "ในที่สุดจีนก็ยอมรับบุคคลรักเพศเดียวกันซะที" แน่นอนข้อความดังกล่าวถูกแชร์เช่นกัน

ด้านสำนักพิมพ์ Beijing Normal University ได้ออกมาตอบโต้กระแสดังกล่าว โดยระบุว่าทางสำนักพิมพ์นั้นตรวจสอบเข้มงวดอย่างดีแล้ว ก่อนที่จะตีพิมพ์ออกมา

หลายปีที่ผ่านมา เด็กๆชาวจีนได้รับผลกระทบจากเพศศึกษาที่ล้มเหลว ซึ่งเป็นผลมาจากระบบการศึกษาที่ล้มเหลวเช่นกัน จำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ในวัยรุ่นเพิ่มจำนวนขึ้น เด็กผู้หญิงหลายคนไม่ทราบวิธีการคุมกำเนิด และเลือกที่จะทำแท้งในท้ายที่สุด ผลการสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่า 10% ของนักศึกษาจีนยอมรับว่าพวกเธอเคยผ่านการทำแท้งมาแล้ว