posttoday

รัสเซียวีโต้คว่ำบาตรซีเรียโดยยูเอ็น ฐานใช้อาวุธเคมี

01 มีนาคม 2560

รัสเซียและจีนใช้สิทธิคัดค้านการลงประชามติคว่ำบาตรซีเรีย หลังสืบสวนพบรัฐบาลใช้อาวุธเคมีโจมตีกลุ่มกบฏ

รัสเซียและจีนใช้สิทธิคัดค้านการลงประชามติคว่ำบาตรซีเรีย หลังสืบสวนพบรัฐบาลใช้อาวุธเคมีโจมตีกลุ่มกบฏ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในการประชุมลงมติของสหประชาชาติเกี่ยวกับประเด็นความพยายามหาบทลงโทษแก่ซีเรีย ฐานรัฐบาลใช้อาวุธเคมีโจมตีพื้นที่ของกลุ่มกบฏ รัสเซีย และจีนใช้สิทธิวีโต้ในการลงมติครั้งนี้

ร่างมติคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการแบนการขาย หรือจัดหาเฮลิคอปเตอร์แก่รัฐบาลซีเรีย รวมไปถึงแบนห้ามนักการเมืองในรัฐบาลของประธานาธิบดีบาร์ซา อัล-อัสซาด และทหารซีเรียเดินทางออกนอกประเทศ และระงับทรัพย์สินอีกด้วย

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังองค์การห้ามอาวุธเคมีดำเนินการสืบสวนพบว่ารัฐบาลซีเรียใช้เฮลิคอปเตอร์ในการทิ้งระเบิดบาร์เรลซึ่งบรรจุไปด้วยแก๊สคลอรีน

ในการลงประชามติครั้งนี้มี 9 ประเทศที่ร่วมลงมติด้วยได้แก่ อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาลงมติเห็นชอบด้วย จีน, รัสเซีย และโบลิเวียลใช้สิทธิวีโต้คัดค้าน ส่วนคาซัคสถาน, เอธิโอเปีย และอียิปต์งดออกเสียง ทำให้ทางที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลงมติไม่รับร่างญัตติคว่ำบาตรซีเรียในกรณีใช้อาวุธเคมีครั้งนี้ไป

นี่เป็นครั้งที่ 7 แล้ว ที่รัสเซียใช้สิทธิวีโต้ในการปกป้องรัฐบาลของอัล-อัสซาด โดยประธานาธิบดีวลาดิเมีย ปูติน ได้ออกมาเตือนว่าการคว่ำบาตรโดยยูเอ็นครั้งนี้ จะส่งผลกระทบถึงการประชุมสันติภาพเพื่อซีเรีย ในกรุงเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

ด้าน Nikki Haley เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติออกมากล่าว หลังผลการโหวตว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นวันอันน่าเศร้า เมื่อสมาชิกของยูเอ็นพยายามหาข้อแก้ตัวให้อีกสมาชิกที่สังหารประชาชนของตนเอง โลกของเรากำลังอันตรายมากยิ่งขึ้น"

ทั้งนี้อาวุธเคมีที่รัฐบาลซีเรียใช้ ทั้งคลอรีน และกรดไฮโดรคลอริกล้วนถูกแบนภายใต้อนุสัญญาอาวุธเคมี ซึ่งซีเรียเข้าร่วมตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา