อนาคตตอ.กลาง

ความวิตกกังวลประการหนึ่งต่อสถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางขณะนี้คือ อนาคตหลังยุคบรรดาเผด็จการทั้งหลายในแต่ละประเทศว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งน่าจะเกิดการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายหัวรุนแรง ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มเครือข่ายก่อการร้าย และมุสลิมสุดโต่งที่จะเข้าแทรกซึมสถานการณ์ได้โดยง่าย

อย่างเช่นในกรณี ลิเบีย ผู้บัญชาการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของสหรัฐยอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ อาจจะเข้าแทรกแซงและครอบงำฝ่ายค้านของลิเบีย ซึ่งมีทั้งเครือข่ายอัลกออิดะห์ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในแอฟริกาเหนือในพื้นที่ตรงนั้นอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่ฐานใหญ่อยู่ในเลบานอน

มีเหตุผลและความชอบธรรมหลายประการที่ทำให้เกิดความเป็นไปได้เช่นนั้นด้วย

การปลุกระดมผู้นำแนวทางหัวรุนแรง และแนวทางก่อการร้ายในตะวันออกกลางเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจุดชนวนได้ง่าย ด้วยทั้งจากความเชื่อทางศาสนาและกระแสการต่อต้านอิทธิพลตะวันตกและการต่อต้านอิสราเอล ซึ่งถือเป็นศัตรูเบอร์ 1 ของโลกอาหรับ

ประการแรก ความเชื่อทางศาสนาต่างนิกายในตะวันออกกลางถือเป็นชนวนแห่งความแตกแยกในภูมิภาคอยู่แล้ว ฝั่งหนึ่งคือมุสลิมสุหนี่ นำโดยซาอุดีอาระเบีย ส่วนอีกฝั่งก็มุสลิมชีอะห์ นำโดยอิหร่านเป็นประเทศชีอะห์ที่ใหญ่ที่สุด ความระหองระแหงกันของทั้งสองฝั่งทำให้ที่ผ่านมาโลกอาหรับไม่เคยไว้วางใจกันเอง ดังเช่นเกิดความหวาดกลัวกันว่า การเสื่อมสลายของผู้นำในหลายประเทศช่วงนี้อาจจะเปิดโอกาสให้อิหร่าน ซึ่งใช้แนวทางจารีตสุดโต่งเข้าครอบงำ เช่น ในอียิปต์ หรือลิเบีย

ประการต่อมาคือ การกำจัดอิทธิพลตะวันตกและอิสราเอล ซึ่งถือเป็นตัวแทนของโลกตะวันตก ยิ่งจะถูกใช้เป็นข้ออ้างการปลุกระดมของฝ่ายหัวรุนแรงในตะวันอกกลางมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงในซีเรีย อียิปต์ และลิเบีย จะทำให้ตะวันตกเข้าไปมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็จะระอุไปด้วยการต่อต้านจากกลุ่มหัวรุนแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สรุปแล้ว อนาคตตะวันออกกลางน่าหวาดหวั่นอย่างยิ่งครับ น่าจะเกิดการก่อการร้ายที่ถี่ครั้งมากขึ้น จากความพยายามสยายอิทธิพลกันเองภายในภูมิภาค และกระแสการต่อต้านอิทธิพลโลกตะวันตก และอิสราเอลที่จะยิ่งดุเดือดเลือดพล่าน

ดังที่เกิดขึ้นในอิรักมาตลอด 8 ปีครับ