posttoday

นศ.ผู้ดีเสี่ยงคุก-ตีพิมพ์คู่มือขโมย

24 กุมภาพันธ์ 2554

เพราะเจตนาต้องการประชดเสียดสีแบบขำๆ เหน็บแนมแบบสนุกๆ ไม่จริงจัง แต่กลายเป็นว่าทันทีที่บทความของนักศึกษาที่วิทยาลัยควีนแมรี มหาวิทยาลัยลอนดอน ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัย กลับได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย จนถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับคนเขียนบทความ และกองบรรณาธิการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบทความดังกล่าวออกมาเผยแพร่

เพราะเจตนาต้องการประชดเสียดสีแบบขำๆ เหน็บแนมแบบสนุกๆ ไม่จริงจัง แต่กลายเป็นว่าทันทีที่บทความของนักศึกษาที่วิทยาลัยควีนแมรี มหาวิทยาลัยลอนดอน ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัย กลับได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย จนถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับคนเขียนบทความ และกองบรรณาธิการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบทความดังกล่าวออกมาเผยแพร่

 

นศ.ผู้ดีเสี่ยงคุก-ตีพิมพ์คู่มือขโมย

สาเหตุที่กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตบานปลายได้ถึงขนาดนี้ เป็นเพราะบทความดังกล่าวดันเป็นเรื่องราวแนะนำให้คนอ่านเข้าไปขโมยของในร้านโดยไม่ถูกจับ จะหลบกล้องวงจรปิดได้อย่างไร ควรหยิบของตรงไหนเข้ากระเป๋าจึงจะปลอดภัย พ่วงด้วยเคล็ดลับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมถ้าหากว่าถูกเจ้าของร้านจับได้ และการเจรจาต่อรองที่มักได้ผลเสมอ พร้อมด้วยข้อแก้ตัวที่จะช่วยให้รอดพ้นโทษสถานหนักจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐ เรียกได้ว่าครบถ้วนกระบวนความ ราวกับเป็นบทความเคล็ดลับการลดน้ำหนักใน 3 วัน ตามนิตยสารวัยรุ่นทั่วๆ ไป

งานนี้ คนที่รับไปเต็มๆ คือบรรดากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ที่ต้องรีบออกมาชี้แจงแถลงไขถึงที่มาที่ไปของบทความชิ้นนี้ว่า เพื่อประชดมหาวิทยาลัยที่ผลาญเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งมาจากภาษีของประชาชนอย่างสูญเปล่า เพราะขณะที่ห้องสมุดขาดแคลนหนังสือ แต่มหาวิทยาลัยสามารถตีพิมพ์ใบปลิวได้กว่า 9,000 ฉบับ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

“เราต้องการสื่อให้รู้ว่า มหาวิทยาลัยกำลังหลงทาง ไม่รู้ว่าอะไรคือหน้าที่ที่ถูกต้อง เหมือนที่เราลงบทความเช่นนี้ เพราะเราก็หลงทางเหมือนกัน” โจนาธาน โบลตัน นักศึกษาด้านประวัติศาสตร์ ปริญญาตรี ปี 3 กล่าวตอบโต้ แถมท้ายด้วยการย้ำว่า บทความดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวสะท้อนจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์จริงแท้ของนักศึกษา

ทว่า คนที่ขำไม่ออกเห็นจะเป็นบรรดาเจ้าของธุรกิจการค้าทั้งหลาย โดย แอนดรูว์ ดอดด์ โฆษกจากสมาคมผู้ประกอบการค้าปลีก ถึงกับลุกขึ้นเต้นไม่เป็นท่าอย่างหัวเสีย และระบุว่า คู่มือการขโมยของนี้ เป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก แม้ว่าจะตั้งใจให้เป็นเรื่องตลก แต่การแนะนำส่งเสริมสนับสนุนให้ขโมยของในร้าน เท่ากับผลักภาระให้กับลูกค้ารายอื่นที่เข้ามาซื้อของตามปกติ เพราะเจ้าของร้านไม่สามารถแบกรับต้นทุนของสินค้าที่หายไปได้

แว่วว่า สำนักงานทนายความเตรียมเปิดตำราหามาตรการทางกฎหมาย เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีเอาเรื่องเอาราวกับนักศึกษากลุ่มนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างของการเล่นพิเรนทร์แบบเกินขอบเขต ไม่รู้ว่าป่านนี้นักศึกษากลุ่มนั้นจะยังนั่งหัวเราะได้อยู่หรือเปล่า