posttoday

ผู้อพยพยูเครนถูกฉวยโอกาสในตะวันตกใช้แรงงานเยี่ยงทาส

21 เมษายน 2565

ชาวยูเครนที่เข้าไปทำงานเก็บผลไม้เจอสภาพสุดแย่จนต้องพากันหนีออกมา บางคนกลายเป็นแรงงานชั้นสอง

The Guardian รายงานว่า ชาวยูเครนหลายร้อยหลายพันคนกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายในอังกฤษหลังจากพวกเขาตัดสินใจหนีสภาพการทำงานสุดแย่ออกมาจากฟาร์มที่เข้าไปเก็บผลไม้ตามฤดูกาล โดยหลายคนอ้างว่าถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาส

จากข้อมูลของทางการอังกฤษ ชาวยูเครนเป็นแรงงานที่ได้รับวีซ่าทำงานตามฤดูกาลกลุ่มใหญ่ที่สุดในอังกฤษในปี 2021 คือมีถึง 2 ใน 3 หรือ 19,920 คนจากทั้งหมด 29,631 คนที่ได้วีซ่าประเภทนี้

The Guardian ได้พูดคุยกับแรงงานชาวยูเครนรายหนึ่งซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากใจอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง หลังจากหลบหนีจากสภาพการทำงานในฟาร์มที่เธอบอกว่า “ไม่ต่างกับการเป็นทาสสมัยใหม่”

แรงงานหญิงรายนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่มีดีกรีจากมหาวิทยาลัยถึง 2 ใบ เธอเดินมาอังกฤษกับสามีซึ่งกำลังจะจบการฝึกหัดเพื่อเป็นหมอ โดยหวังว่าจะมาหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัว

แรงงานหญิงรายนี้ให้ข้อมูลแก่ Work Rights Center ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ช่วยให้ผู้อพยพย้ายถิ่นเข้าถึงความยุติธรรมในการจ้างงาน โดยมีรายละเอียดสภาพการทำงานที่น่าตกใจในฟาร์มที่เธอและสามีทำงานตั้งแต่เดือน ส.ค. 2021 กระทั่งทั้งคู่หลบหนีในเดือน ต.ค. 2021

ตอนนี้เธอทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด ส่วนสามีทำงานก่อสร้างอยู่ในระบบเศรษฐกิจใต้ดิน

“เราเจอชาวยูเครนคนอื่นๆ หลายคนมากที่เหมือนกับเราคือหนีออกมาจากฟาร์ม และไม่สามารถกลับยูเครน เลยต้องถูกบังคับให้ทำงานที่นี่อย่างผิดกฎหมาย” แรงงานชาวยูเครนเล่า โดยบอกว่าเธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประกันอยู่ในอังกฤษ ทางบ้านบอกเธอว่าไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามกลับยูเครน เพราะเมืองที่อยู่ถูกโจมตี

แรงงานรายนี้เล่าต่อว่า “ไม่มีใครสนใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับแรงงานที่เข้ามาทำงานตามฤดูกาล ฉันคิดว่าสิทธิของพวกเราจะได้รับการปกป้องอย่างดีในอังกฤษ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น การทำงานในฟาร์มเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดและเป็นการปฏิบัติต่อฉันที่แย่ที่สุดในชีวิต”

The Guardian ระบุว่า เธอกับแฟนทำงานในฟาร์มผลไม้ที่ไม่อนุญาตให้คนงานสวมถุงมือ ทำให้มือของพวกเขาเลือดออกและผิวหนังลอก

หญิงรายนี้เล่าว่า คนงานในฟาร์มแห่งหนึ่งลุกฮือประท้วงสภาพการทำงานที่แย่ กลุ่มผู้ประท้วงถูกลงโทษด้วยการพักงาน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ นายจ้างยังตั้งเป้าหมายที่ไม่สามารถทำได้ นายจ้างใช้การข่มขู่และการสร้างความอับอายบีบบังคับให้ทำงานราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนผิวที่มือเท้าบางลงจนเลือดออก ถ้ามีคนตกบันไดก็จะถูกส่งกลับไปที่แคมป์คนงานแล้วปล่อยให้หายเอง หรือไม่ก็ส่งกลับบ้าน

คนงานในแคมป์เดียวกับหญิงรายนี้พากันหนีออกมา เหลือเพียง 38 คนเท่านั้นที่ยังอยู่ต่อ

เธอเล่าว่า เมื่อหนีออกมาแล้วก็จำต้องทำงานผิดกฎหมายอยู่ในเมืองต่างๆ เพื่อหาเงินและปกป้องสุขภาพของตัวเอง และเธอจะไม่กลับไปทำงานที่ฟาร์มอีกเลย

ขณะที่รายงานที่เผยแพร่เมื่อปลายปีที่แล้วของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบทของอังกฤษพบว่า แรงงานตามฤดูกาลตามโครงการนำร่องหลังแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 เพื่อเข้ามาเก็บผักและผลไม้ถูกบังคับให้ทำงานภายใต้เงื่อนไขสวัสดิการที่ไม่สามารถยอมรับได้ อาทิ ไม่มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและป้องกันสุขภาพ การเหยียดเชื้อชาติ ที่พักไม่มีห้องอาบน้ำ น้ำประปา หรือครัว

ขณะที่ในเยอรมนีซึ่งกำลังต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงโดยเฉพาะผู้หญิงจากยูเครน ทางการกำลังเป็นห่วงว่าความต้องการดังกล่าวนี้อาจส่งผลให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนถูกเอารัดเอาเปรียบในฐานะแรงงานราคาถูกในเยอรมนี

โรเบิร์ต ไฟเกอร์ ประธานสหภาพอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง การเกษตร และสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางถึงกับย้ำเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ว่า “ต้องไม่มีแรงงานชั้นสอง” และว่า แรงงานตามฤดูกาลในภาคการเกษตรไม่พอใจกับการคุ้มครองจากประกันสุขภาพและสังคมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 70 วัน

ส่วนแรงงานก่อสร้างยังได้รับค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายหลังจากไม่สามารถขอขึ้นค่าแรงเมื่อเร็วๆ นี้ ทว่าทางสหภาพมองว่าค่าแรงขั้นต่ำในขณะนี้ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับงานก่อสร้างที่ค่อนข้างหนัก

Photo by Wojtek RADWANSKI / AFP

 

ข่าวล่าสุด

แอร์เอเชียจัดโปร NiHao China บิน 10 เมืองฮิต เริ่มต้นแค่ 2,026 บาท