ดอกเบี้ยต้องมากกว่านี้ สมาชิกเฟดชี้เงินเฟ้อแรงต้องใช้ยาแรง

สำนักข่าวรอยเตอรายงานว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐช่วยทำตามความคาดหวังของตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถขจัดความกลัวว่าการขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมาจะช่วยอุดรูรั่วในเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน

“เฟดจำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างจริงจังเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ” เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์กล่าวกับบลูมเบิร์กทีวีเมื่อวันอังคาร โดยเรียกร้องให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนมาตรฐานเป็น 3% ในปีนี้

บุลลาร์ดไม่เห็นด้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ของเขาตกลงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกองทุนของรัฐบาลกลางเพียง 1 ใน 4 ของจุดเปอร์เซ็นต์จากระดับที่ใกล้ศูนย์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020

“เร็วกว่าย่อมดีกว่า” เขากล่าวเมื่อวันอังคาร และมุมมองนั้นตอนนี้ดูเหมือนจะได้รับแรงสนับสนุน

ในวันจันทร์ที่ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่าธนาคารกลางจะต้องเคลื่อนไหว "อย่างรวดเร็ว" เพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อถูกถามว่าอะไรจะขัดขวางไม่ให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งเปอร์เซ็นต์ในการประชุมนโยบาย 3-4 พ.ค. เขาตอบว่า "ไม่มีอะไร"

ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ชี้ว่าอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในการประชุมเฟดที่เหลืออีก 6 ครั้งในปีนี้ พร้อมชี้ว่าผลกระทบที่ต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทานราคาตกต่ำ และสะท้อนความกังวลของพาวเวลล์ว่าสงครามยูเครนของรัสเซียจะทำให้อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอีก จากที่สูงเกินไปอยู่แล้ว

“ฉันคิดว่ามันน่าสนใจในการที่จำเป็นจะต้อขยักการเพิ่มขึ้น (ดอกเบี้ย) ที่จำเป็นบางอย่างก่อนดีกว่าจะไปทำในภายหลังตามกระบวนการ เพราะมันทำให้นโยบายอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการปรับตัว หากเศรษฐกิจมีการพัฒนาที่แตกต่างจากที่คาดไว้” เมสเตอร์ กล่าว

ภายในสิ้นปีนี้ เมสเตอร์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยควรจะอยู่ที่ประมาณ 2.5% และอัตราจะต้องเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้าเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ

แมรี เดลี ประธานเฟดแห่งซานฟรานซิสโก หนึ่งในบรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐสายพิราบ ไม่ได้ถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งจุดในการประชุมออนไลน์ที่สถาบันบรูคกิ้งส์เมื่อต้นวันอังคาร

แต่เธอบอกว่าเธอต้องการเพิ่มอัตราให้สูงขึ้น สู่ระดับที่เป็นกลาง และอาจสูงกว่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เงินเฟ้อสูงฝังตัว

ทั้งหมดกล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นสามารถช่วยลดความต้องการแรงงานที่ร้อนแรงโดยไม่กระทบต่อการเติบโตของงาน

ความคิดเห็นดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการเดิมพันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าเกี่ยวกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครึ่งจุดในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ขณะนี้ผู้ค้าเห็นอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นเป็นช่วง 2.25%-2.5% ภายในสิ้นปี น่อยกว่าทัศนะของบุลลาร์ดระบุไว้ แต่สูงกว่า 1.9% ที่เฟดคาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พาวเวลล์แย้งว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งพอที่จะทนต่อต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นโดยไม่ทำลายตลาดแรงงาน และแย้งว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เฟดสามารถทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่องคือการได้ทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม

แต่ขณะนี้ผู้ค้ากำลังเดิมพันว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2024 เห็นสัญญาณได้จากการกำหนดราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

“ตลาดตราสารหนี้ไม่เชื่อในการมองโลกในแง่ดีทางเศรษฐกิจของพาวเวลล์ ตลาดกำลังบอกเราว่าการขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป หากเฟดเดินไปตามเส้นทางของพาวเวลล์ จะไม่เพียงแต่เป็นเรื่องท้าทายเท่านั้น มันจะเป็นไปไม่ได้ด้วย” Roberto Perli นักเศรษฐศาสตร์จาก Piper Sandler

Brendan Smialowski/Pool via REUTERS//File Photo