posttoday

ไบเดนว่าอย่างไรเมื่อสหรัฐเจอปัญหาหมูแพง

04 มกราคม 2565

ส่องปัญหาเนื้อสัตว์ราคาแพงในสหรัฐ เกิดจากอะไร? รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร?

1. สหรัฐกำลังเผชิญกับปัญหาเนื้อสัตว์ราคาแพง ซึ่งทำให้อาหารโปรดของชาวอเมริกันอย่างสเต็ก หรือแฮมเบอร์เกอร์ มีราคาสูงขึ้น ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ

2. AFP รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมาแตะที่ 6.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1982 ขณะที่ราคาเนื้อวัวพุ่งขึ้น 20.9% เนื้อหมูเพิ่มขึ้น 16.8% และเนื้อแฮมเบอร์เกอร์เพิ่มขึ้น 13.9% ในเดือนเดียวกัน

3. รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนจัดสรรงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 30,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือบรรดาเกษตรกรรายย่อย อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาล "American Rescue Plan"

4. โดยงบประมาณดังกล่าวรวมถึงเงินทุน 275 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และ 100 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการพัฒนางานและการฝึกอบรม

5. รัฐบาลระบุว่าการควบคุมตลาดและผูกขาดของบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่รายทำให้เกิดคอขวดในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ลดทอนการแข่งขันในตลาด ผลักดันให้ราคาอาหารสูงขึ้น และเอาเปรียบเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย

6. "ราคาเนื้อสัตว์ในขณะนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาอาหารที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ส่วนแบ่งผลกำไรของเกษตรกรลดน้อยลง แต่ผู้บริโภคชาวอเมริกันก็ยังจ่ายมากขึ้น บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่รายกำลังควบคุมตลาดส่วนใหญ่ ห่วงโซ่อุปทานอาหารของเราจึงอ่อนไหวต่อแรงกระแทก" ทำเนียบขาวกล่าว

ขณะที่ไบเดนชี้ว่า "ทุนนิยมที่ไม่มีการแข่งขันไม่ใช่ทุนนิยม แต่เป็นการเอารัดเอาเปรียบ"

7. New York Post ระบุว่าบริษัทเนื้อสัตว์แปรรูปยักษ์ใหญ่ 4 แห่งครองส่วนแบ่งมากถึง 85% ของตลาดเนื้อวัวในสหรัฐ, 70% ของตลาดเนื้อหมู และ 54% ของตลาดสินค้าเนื้อสัตว์ปีก

8. รัฐบาลระบุว่า "เมื่อพ่อค้าคนกลางมำอำนาจควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้มาก พวกเขาสามารถเพิ่มผลกำไรของตนเองได้โดยที่เกษตรกรยังคงได้ผลตอบแทนน้อย และผู้บริโภคต้องจ่ายมากขึ้น...การพึ่งพายักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่รายทำให้เกิดการหยุดชะงักที่คอขวดในระบบห่วงโซ่อุปทานอาหารของเรา"

9. ในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา เจน ซาซากิ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าราคาเนื้อสัตว์ที่พุ่งสูงขึ้นเกิดจาก "ความโลภของกลุ่มบริษัทเนื้อสัตว์"

10. ตามแผนการของรัฐบาลระบุว่ากระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานด้านการเกษตรจะทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมที่บ่อนทำลายการแข่งขันในตลาด โดยแผนดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและผู้ค้ารายย่อย

11. เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมาทำเนียบขาวเปิดเผยว่าไบเดนจะประชุมร่วมกับเกษตรกรรายย่อยและผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์เพื่ออธิบายแผนการดำเนินการของรัฐบาลในการเพิ่มการแข่งขันในตลาด และบรรเทาปัญหาราคาสินค้าในอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายย่อยได้ร้องเรียนถึงความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญเนื่องจากการผูกขาดโดยกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่

12. ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆ ชะลอตัวอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกลับมาฟื้นตัวด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน ขณะที่อุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ซึ่งนอกจากราคาเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้นแล้ว ราคาน้ำมันยังทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างน่าตกใจ

Photo by REUTERS/Jason Lee