posttoday

สิ้น "ไท้ซูพะยาจี" เจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเมียนมา

02 มกราคม 2565

และยังทรงเป็นเชื้อพระวงศ์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ราชวงศ์โก้นบองที่เคยปกครองเมียนมาก่อนที่จะถูกอังกฤษยึดเป็นอาณานิคม

Eleven Media Group สื่อในประเทศเมียนมารายงานว่า เจ้าหญิงไท้ซูพะยาจี (Hteik Su Phaya Gyi) สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคชราเมื่อเวลา 04.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ณ นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ สิริพระชันษา 99 ปี สื่อเมียนมารายงานว่า เจ้าหญิงไท้ซูพะยาจีทรงเป็นพระราชนัดดาองค์สุดท้ายของพระเจ้าสีป่อ (พระเจ้าธีบอ) กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โก้นบอง ที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ เท่ากับทรงเป็นเชื้อพระวงศ์สุดท้ายแห่งเมียนมา แต่บัดนี้ได้สิ้นไปแล้ว

เจ้าหญิงไท้ซูพะยาจี ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2466 หรือที่รู้จักในชื่อ "ซูซูขิ่น" หรือ "ปวาร์ เมย์" หรือเจ้าหญิงเทสซี่ ทรงเป็นพระราชธิดาของเจ้าหญิงเมียะพะยากะเล (Myat Phaya Galay) เป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กในพระเจ้าสีป่อกับพระนางศุภยาลัต พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีองค์สุดท้ายของพม่า

สิ้น "ไท้ซูพะยาจี" เจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเมียนมา

หลังพม่าถูกผนวกเข้าเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร พระเจ้าสีป่อและพระมเหสีคือพระนางศุภยาลัต ถูก "เชิญเสด็จ" ไปประทับที่เมืองรัตนคิริ บริติชราช (ประเทศอินเดีย) ในปี พ.ศ. 2458 ซึ่งเจ้าหญิงเมียะพะยากะเลเสด็จตามพระราชบิดาและพระราชมารดาไปด้วย แต่ภายหลังพระองค์ถูกสั่งให้ย้ายไปประทับ ณ เมืองมะละแหม่งในพม่าภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรเมื่อปี พ.ศ. 2475 จนสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. 2479

เจ้าหญิงเมียะพะยากะเลเสกสมรสกับโก โก ไนง์ อดีตภิกษุในร่างกุ้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2463 มีพรโอรส-ธิดาหกคน องค์ที่สองคือเจ้าหญิงไท้ซูพะยาจี ซึ่งมีพระชนมายุยืนนานที่สุดกว่าบรรดาพระเชษฐา พระอนุชาและพระขนิษฐาทุกพระองค์

สิ้น "ไท้ซูพะยาจี" เจ้าหญิงองค์สุดท้ายแห่งเมียนมา

เจ้าหญิงไท้ซูพะยาจีทรงเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิกเมืองมะละแหม่งและได้ทำงงานที่สถานทูตสหรัฐฯ และออสเตรเลียในกรุงย่างกุ้ง ในปี พ.ศ. 2479 เเจ้าหญิงไท้ซูพะยาจีได้รับข้อเสนอให้ทรงหมั้นกับพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ในหลวงรัชกาลที่ 8 ทำให้เกิดความคาดหวังอย่างกว้างขวางว่าเจ้าหญิงจะมาเป็นพระราชินีของประเทศไทยแต่เรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม องค์หญิงทรงพยายามรักษาพระเกียรติยศของพระราชวงศ์โก้นบอง โดยพยายามนำพระบรมศพของพระเจ้าสีป่อซึ่งเป็นพระอัยกากลับจากเมืองรัตนคิริมายังเมียนมา ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำไม่สำเร็จ

ในปีพ.ศ. 2486 เจ้าหญิงสมรสกับหม่องหม่องขิ่น (Maung Maung Khin) ซึ่งเป็นทายาทของราชวงศ์มอญ และเป็นหลานชายของนายกรัฐมนตรีบามอว์ (Ba Maw) บุคคลสำคัญในยุคการต่อสู้เพื่อเอกราชของเมียนมาจากอังกฤษ และเป็นพี่น้องกับขิ่นจี ภริยาของเจ้าชายต่อพะยาจี หรือ จอร์จ พระเชษฐาของพระองค์ (พระโอรสองค์โตของเจ้าหญิงเมียะพะยากะเล) ทั้งนี้ หม่อง หม่อง ขิ่น ถึงแก่กรรมที่ย่างกุ้ง ในปี พ.ศ. 2527

องค์หญิงมี บุตรชายสามคนและบุตรสาวสองคน คือ Win Khin (เกิดปี 1945), Kyaw Khin (เกิดปี 1948), Aung Khin (เกิดปี 1953 – เสียชีวิต ตุลาคม 2008), Cho Cho Khin (เกิดปี 1943) และ Devi Khin (เกิดปี 1951)

สำหรับงานพระศพของเจ้าหญิงไท้ซูพะยาจีมีขึ้นในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.00 น. 

ภาพ Hteiktinhein (wikipedia.org / CC BY-SA 4.0)