posttoday

หุ้นเอเชียร่วงเกือบต่ำสุดรอบ 1 ปี น้ำมันแพง-กลุ่มเทคโดนหนัก

05 ตุลาคม 2564

ตลาดหุ้นเอเชียแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ดัชนีเกณฑ์มาตรฐานตก 3 ช่วงซื้อขายติดต่อกัน ราคาพลังงานที่สูงขึ้นทำให้ตลาดสั่นสะเทือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานหุ้นเอเชียสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงต้นวันอังคารหลังจากการเทขายออกในวงกว้างตามตลาด Wall Street เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงในรอบหลายปีก่อให้เกิดความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิก MSCI นอกญี่ปุ่นลดลงมากถึง 1.3% ลดลงเป็นช่วงที่สามติดต่อกัน หุ้นญี่ปุ่นร่วง 2.8% เกาหลีใต้เสียไป 2.5% และออสเตรเลียร่วง 1%

Vasu Menon ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ OCBC Bank กล่าวว่า "นักลงทุนมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

การร่วงลงของตลาดทำให้ดัชนีชี้วัดหลักของ MSCI อยู่ที่ 619.87 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งร่วงลงมากกว่า 5% ในปีนี้ โดยตลาดฮ่องกงและญี่ปุ่นอยู่ในกลุ่มที่ขาดทุนรายใหญ่

“เราได้เห็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีผลงานดีกว่าหุ้นมูลค่า ดังนั้นหากเงินเฟ้อยังคงเป็นที่น่าวิตก หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็มักจะโดนโจมตี” เมนอนกล่าว

ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในวันจันทร์ หลังจากกลุ่ม OPEC+ ยืนยันว่าจะยึดตามนโยบายการส่งออกในปัจจุบัน เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมฟื้นตัว แม้จะมีแรงกดดันจากบางประเทศให้เพิ่มการผลิตมากขึ้น

น้ำมันสหรัฐทรงตัวที่ 77.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนึ่งวันหลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 น้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 81.30 ดอลลาร์หลังจากเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามปี

ตลาดในเอเชียจะจับตาว่า Evergrande ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนจะมีความหวังใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนที่กำลังมองหา สัญญาณการจำหน่ายทรัพย์สินเพื่อแก้ปัญหาหนี้ หุ้นในบริษัทหยุดซื้อขายในวันจันทร์

ทั้งนี้ Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.94% มาอยู่ที่ 34,002.92 ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.30% ที่ 4,300.46 และ Nasdaq Composite ลดลง 2.14% มาที่ 14,255.49 เนื่องจากนักลงทุนทิ้งหุ้น Big Tech หลังจากผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากคำเตือนของนักลงทุนเกี่ยวกับความจำเป็นในการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล เนื่องจากสหรัฐ เผชิญกับความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ในสองสัปดาห์ ในการซื้อขายช่วงปลายที่ Wall Street มีรายงานว่าวุฒิสภาสหรัฐเตรียมที่จะลงคะแนนเสียงในร่างกฎหมายที่ผ่านในสภาผู้แทนราษฎรที่จะขยายวงเงินหนี้ของสหรัฐเป็นเดือนธันวาคม 2565 เป็นการช่วยแก้ปัญหาการหยุดชะงักในสภาคองเกรสที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจไปได้อีกเปราะหนึ่ง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูการจ้างงานที่สำคัญของสหรัฐที่ครบกำหนดในปลายสัปดาห์ซึ่งอาจช่วยบอกใบ้เกี่ยวกับระยะเวลาของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ถูกปรับให้ชะลอลงและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าของหกสกุลเงิน ขยับขึ้น 0.09% เป็น 93.928

เงินยูโรร่วงลง 0.13% มาอยู่ที่ 1.1605 ดอลลาร์ขณะที่เงินเยนซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.12% ที่ 111 ดอลลาร์

ราคาทองคำอยู่ในกรอบแคบและยืนที่ 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้นในวันจันทร์สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.

Photo - Spencer Platt/AFP