posttoday

เผยอุณหภูมิโลกเดือน ก.ค.ร้อนที่สุดในรอบ 142 ปี

14 สิงหาคม 2564

สหรัฐเผยเดือน ก.ค.โลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนเอเชียร้อนสุดในรอบ 11 ปี

สำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) เผยว่า เดือน ก.ค. เป็นเดือนที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ NOAA เริ่มบันทึกสถิตินี้เมื่อ 142 ปีที่แล้ว

NOAA ระบุว่า อุณหภูมิของพื้นดินและพื้นผิวมหาสมุทรสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของศตวรรษที่ 20 (15.8 องศาเซลเซียส) ถึง 0.93 องศาเซลเซียส และสูงกว่าสถิติเก่าของเดือน ก.ค. 2016 ถึง 0.01 องศาเซลเซียส

ริค สปินราด ผู้บริหาร NOAA เผยว่า ปกติแล้วเดือน ก.ค.เป็นเดือนที่อุณหภูมิโลกสูงที่สุดของปี แต่เดือน ก.ค.ปีนี้ทุบสถิติเดิมของตัวเองเป็นเดือน ก.ค. ที่ร้อนที่สุดและเดือนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา

อย่างไรก็ดี รายงานโดยหน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส (Copernicus) ของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นต้นที่ร้อนที่สุดอันดับ 3 ของโลก ขณะที่องค์การนาซาระบุว่าเดือน ก.ค.ปีนี้ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2

ทว่า เซค เฮาส์ฟาเธอร์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศจาก Breakthrough Institute เผยว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่รายงานของแต่ละหน่วยงานจะแตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจาก NOAA จัดเก็บข้อมูลในอาร์กติกในขอบเขตที่จำกัดกว่าบันทึกอุณหภูมิในส่วนอื่นๆ ของโลก

“แต่ไม่ว่าจะร้อนเป็นอันดับที่เท่าไร ความร้อนที่โลกเผชิญในช่วงฤดูร้อนปีนี้เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นของมนุษย์อย่างชัดเจน” เฮาส์ฟาเธอร์เผยกับสำนักข่าว AFP “มันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าโลกจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นจนเหลือศูนย์”

นอกจากนี้ อุณหภูมิในพื้นที่อื่นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อาทิ อุณหภูมิผิวดินของซีกโลกเหนือของเดือน ก.ค. สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1.54 องศาเซลเซียส) เดือน ก.ค.ของเอเชียร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 ส่วนเดือน ก.ค.ของยุโรปร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2018

ทั้งนี้ เพียงอุณหภูมิร้อนขึ้นเพียง 1.1 องศาเซลเซียส ภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่รุนแรงที่หนักขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้แผ่ขยายไปทั่วโลกในฤดูร้อนนี้ ตั้งแต่คลื่นความร้อนที่ละลายถนนแอสฟัลต์ในแคนาดา ไปจนถึงพายุฝนที่เปลี่ยนถนนหนทางในจีนและเยอรมนีเป็นแม่น้ำ ไปจนถึงไฟป่ารุนแรงในกรีซและแคลิฟอร์เนีย

REUTERS/Issei Kato/File Photo