posttoday

ยอดตายจากโควิดในอินเดียมากกว่าที่รายงานถึง 10 เท่า

20 กรกฎาคม 2564

การศึกษาเผยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียอาจแตะ 4 ล้านคน

เอเอฟพีรายงานว่าศูนย์เพื่อการพัฒนาโลก (Center for Global Development) กลุ่มวิจัยของสหรัฐเผยยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอินเดียสูงกว่าตัวเลขที่ทางการรายงานไว้ที่ 414,000 คนถึง 10 เท่ากล่าวคือมีผู้เสียชีวิตจริงกว่า 4 ล้านคนจากประชากรในประเทศทั้งหมด 1,300 ล้านคน

อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากในอินเดีย โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม

ทีมวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดไปจนถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ซึ่งชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียอยู่ที่ระหว่าง 3.4 ล้านถึง 4.7 ล้านคน

ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตที่ทางการรายงานไว้ที่ 414,000 คนนั้นเป็นยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐ (609,000 คน) และบราซิล (542,000 คน) ซึ่งหากรายงานการศึกษาจากทีมวิจัยของสหรัฐเป็นจริงอินเดียจะเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก

โดยทีมวิจัยรวมถึง อาร์วินด์ สุบรามาเนียน นักเศรษฐศาสตร์อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลอินเดียร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประมาณการอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินโดยเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทีมวิจัยยอมรับว่าการประมาณอัตราการเสียชีวิตด้วยข้อมูลทางสถิตินั้นสามารถทำได้ยาก แต่การวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียน่าจะมีจำนวนมากกว่าที่ทางการรายงาน

ด้านคริสตอฟ กิลโมโต ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ชาวอินเดียจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาของฝรั่งเศส (Research Institute for Development) ประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียจะใกล้จะถึง 2.2 ล้านคนในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม โดยมองว่าตัวเลขที่ทางการรายงานนั้นต่ำเกินไปซึ่งขัดแย้งกับวิกฤตที่รุนแรงทั่วอินเดีย

ขณะที่สถาบันการวัดและประเมินผลด้านสุขภาพในสหรัฐ (Institute for Health Metrics and Evaluation) ประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดียอาจมากกว่า 1.25 ล้านคน

นิตยสาร The Economist ก็เคยตีพิมพ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนเกินนั้นสูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่ทางการรายงาน 5 ถึง 7 เท่า ก่อนที่กระทรวงสาธารณสุขอินเดียจะออกมาประณามบทความดังกล่าว

Photo by Sajjad HUSSAIN / AFP