posttoday

กระแสต้านวัคซีนที่ฝรั่งเศสลามหนักถึงขั้นบุกทำลายศูนย์ฉีด

20 กรกฎาคม 2564

ชาวฝรั่งเศสไม่พอใจรัฐบาลบังคับฉีดวัคซีน รวมตัวประท้วง บุกทำลายศูนย์ฉีดวัคซีน เปรียบตัวเองเหมือนเป็นชาวยิวที่ถูกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

มาตรการบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 และข้อกำหนดให้แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือมีผลตรวจ Covid-19 เป็นลบ หรือเพิ่งหายจากโรค สำหรับประชาชนทั่วไปก่อนเข้าใช้บริการในร้านอาหาร หรือสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธ (14 ก.ค.) สร้างความไม่พอใจให้ชาวฝรั่งเศสจำนวนหนึ่ง

นอกจากจะมีการรวมตัวประท้วงมาตรการดังกล่าวกว่า 100,000 คนทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ (17 ก.ค.) ยังมีรายงานว่าศูนย์ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 แห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศถูกคนที่ไม่พอใจทำลายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยศูนย์ฉีดแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเกรอน็อบล์ถูกทำลายและใช้สายฉีดน้ำดับเพลิงฉีดใส่จนน้ำท่วม ถัดมาเพียง 1 วัน ศูนย์ฉีดใกล้กับเมืองบิอาร์ริตซ์ถูกจุดไฟเผา และบริเวณใกล้เคียงกันยังมีการพ่นสีกราฟฟิติโดยใช้สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่นาซีบุกยึดฝรั่งเศสในอดีต

ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่ามาตรการคุมเข้มของประธานาธิบดร เอ็มมานูเอล มาครง ละเมิดเสรีภาพ

โจเซฟ สวาร์ช ชายวัย 94 ปีที่รอดชีวิตจากการถูกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ไม่พอใจมาตรการดังกล่าวเปรียบเทียบตัวเองที่ถูกบังคับฉีดวัคซีนเป็นชาวยิวที่ถูกนาซีเยอรมนีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ผู้ประท้วงบางคนยังสวมดาวเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่นาซีบังคับใช้ชาวยิวสวม บางคนถือป้ายที่เกี่ยวข้องกับค่ายกักกันตัวเอาช์วิตซ์และการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ โดยผู้ประท้วงอ้างว่ารัฐบาลฝรั่งเศสปฏิบัติกับพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรมด้วยมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของ Covid-19

ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง อาทิ เสิร์จ กลาสเฟลด์ นักประวัติศาสตร์และอดีตนักล่านาซีมองว่า ดาวเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของความตายที่แยกชาวยิวออกจากสังคมแล้วนำไปฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่การฉีดวัคซีนเป็นการช่วยชีวิต ดังนั้นการนำทั้งสองอย่างนี้มาเปรียบเทียบกันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ

อย่างไรก็ดี ชาวฝรั่งเศสอีกนับแสนคนพากันลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนหลังจากมาครงออกคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าฝรั่งเศสจะเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 4 ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ทว่า ชาวฝรั่งเศสได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วเพียง 50% และไม่ถึง 40% ที่ได้รับครบโดสแล้ว

Photo by Sebastien SALOM-GOMIS / AFP