posttoday

ความไม่เคลียร์เรื่องเข็มสาม เมื่อ Pfizer กับรัฐบาลสหรัฐก็ยังไม่ชัวร์

12 กรกฎาคม 2564

ขณะที่บางประเทศเริ่มฉีด Pfizer เข็มที่ 3 แล้วแต่ทางการสหรัฐค้านยังไม่จำเป็น

หลังจากที่ Pfizer เปิดเผยว่ามีแผนจะยื่นขออนุมัติจากสหรัฐและยุโรปในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยอ้างถึงข้อมูลเบื้องต้นที่ชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการต้านโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์เบตา 5-10 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม

รวมถึงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลงใน 6 เดือนหลังได้รับวัคซีน จึงอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3

นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ยืนยันแนวทางของบริษัทก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเม.ย. อัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของ Pfizer แนะนำว่า "มีความเป็นไปได้ที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หลังจากเข็มแรกประมาณ 6 ถึง 12 เดือน"

สหรัฐสั่งเบรก

ขณะที่สวนทางกับคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งกล่าวว่า "ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องฉีดบูสเตอร์ในเวลานี้ แต่จะมีการเตรียมวัคซีนเข็มที่ 3 ให้พร้อมเมื่อผลการศึกษาพิสูจน์แล้วว่ามีความจำเป็น" โดยระบุว่ากำลังศึกษาถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3

ดร. แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐให้สัมภาษณ์ต่อ CNN ว่ารัฐบาลจะแจ้งว่าชาวอเมริกันจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 หรือไม่ และเมื่อใด เราเคารพในความคิดเห็นของผู้ผลิตวัคซีน แต่ประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำจาก FDA และ CDC

ด้านเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเน้นย้ำว่าการตัดสินใจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ รัฐบาลต้องให้ข้อมูลด้านสาธารณสุขและข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน

บางประเทศเริ่มฉีดเข็ม 3 แล้ว

ขณะที่ทางการสหรัฐยังไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3 แต่ด้านอิสราเอลได้เริ่มฉีดให้แก่ผู้ใหญ่และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าควรฉีดให้แก่สาธารณชนทั่วไปหรือไม่

รวมถึงตุรกีซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา ทั้งวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac โดยระบุว่าทางการได้ประเมินแล้วว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะเป็นประโยชน์ไม่ว่าก่อนหน้านี้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนจะได้รับวัคซีนชนิดใดมาก็ตาม

ทั้งนี้ จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันพบว่าวัคซีนของ Pfizer มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แต่อาจป้องกันการติดเชื้อได้น้อยกว่าไวรัสสายพันธุ์อื่น เนื่องจากเดลตาเป็นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มติดต่อง่ายกว่า