ยักษ์ใหญ่การเงินสหรัฐเขยิบเข้าหา Crypto-Bitcoin อย่างระวังตัว
การลงทุนใน Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ยังคงเป็นเกมที่มีความเสี่ยง ซึ่งกฎเกณฑ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก แต่ผลตอบแทนอาจเป็นกอบเป็นกำ
เพื่อตอบสนองต่อภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ยักษ์ใหญ่ทางการเงินชั้นนำของสหรัฐหลายรายหลบเลี่ยงที่จะลงทุนในคริปโต แต่ก็มีบริาทจำนวนมากขึ้นที่กำลังดำเนินการอย่างระมัดระวังในโลกที่กำลังเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล
“คำแนะนำส่วนตัวของผมกับคนอื่นๆ ขอให้อยู่ห่างจากมัน” เจมี่ ไดมอน (Jamie Dimon) ผู้บริหารระดับสูงของ JPMorgan Chase กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ก่อนเสริมว่า "นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกค้าไม่ต้องการมัน"
JPMorgan ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐในด้านสินทรัพย์ กำลังประเมินว่ามันสามารถช่วยลูกค้าทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างไร ไดมอนกล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อเดือนที่แล้วในการประชุมประจำปีของธนาคาร
ก่อนหน้านี้มันเป็นแค่การนำเสนอด้านการลงทุนที่นิยมกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ สกุลเงินดิจิทัลกำลังจุดประกายความสนใจมากขึ้นในหมู่นักลงทุนกระแสหลัก หลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปี 2020 และต้นปี 2021
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา State Street ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินที่มีความน่าเชื่อถือสูงได้ประกาศการจัดตั้งแผนกการเงินดิจิทัลใหม่
เมื่อวันพุธ หัวหน้าบริษัทการค้าออนไลน์ Interactive Brokers ได้ให้คำมั่นที่จะเปิดการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลออนไลน์บนแพลตฟอร์มภายในสิ้นฤดูร้อน
เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง Charles Schwab และ Fidelity ขณะนี้ Interactive Brokers ไม่ได้ให้บริการซื้อขาย Bitcoin บนแพลตฟอร์มของตน แม้ว่าจะให้ทางเลือกแก่ลูกค้าในการลงทุนในสินทรัพย์บางประเภทซึ่งรวมถึงคริปโตอื่นๆ หรือ Bitcoin futures
นักลงทุนที่ต้องการแลกเปลี่ยน Bitcoin สามารถหันไปหา Robinhood หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิตอล Coinbase
ForUsAll แพลตฟอร์มที่จัดการบัญชีเกษียณสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้ประกาศข้อตกลงกับ Coinbase ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ถึง 5% ของยอดคงเหลือในสกุลเงินดิจิทัล
ธนาคารเพื่อการลงทุน Morgan Stanley กล่าวในเดือนมีนาคมว่าจะอนุญาตให้ลูกค้ามีฐานะในระดับหนึ่งสามารถลงทุนในกองทุน Bitcoin ในขณะที่ Goldman Sachs ได้จัดตั้งทีมที่ทุ่มเทให้กับการซื้อขายคริปโตโดยเฉพาะ
ผู้บริหารระดับสูงของ Wells Fargo, Citigroup และ Bank of America กล่าวในการพิจารณาของรัฐสภาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมว่าพวกเขากำลังเข้าไปร่วมวงตลาดสกุลเงินดิจิทัลด้วยความระมัดระวัง
Fidelity Investments ซึ่งก่อตั้งแผนกสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2018 เพื่อดำเนินการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลสำหรับกองทุนป้องกันความเสี่ยงและนักลงทุนสถาบันอื่นๆ ได้ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาสำหรับกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin (ETF)
การเคลื่อนไหวนี้อาจขยายการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลไปยังนักลงทุนรายย่อยในวงกว้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัททางการเงินจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะเข้าไปลงทุนเกี่ยวข้องกับตลาดมืดที่เป็นเหตุให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกหันมาจับตาและเตือนการลงทุนเกี่ยวกับคริปโต
นอกจากนี้ยังมีความผันผวนน่าากังวลง โดย Bitcoin เริ่มต้นในปี 2021ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ และแตะ 63,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน ก่อนที่จะร่วงกลับมาที่ 34,000 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน
"นักเก็งกำไรและผู้ที่ทุกข์ทรมานจาก FOMO (ความกลัวที่จะพลาด) จะยังคงแห่กันไปที่คริปโตต่อไปโดยหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนมหาศาล" เอียน เจนดเลอร์ (Ian Gendler) จากบริษัทวิจัย Value Line กล่าว
แต่เจนดเลอร์เรียกร้องให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและการไม่มีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับการนำเงินไปลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์หรือบริษัท Bitcoin และเงินดิจิทัลอื่นๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วยเช่นกัน
“สกุลเงินดิจิทัลนั้นคุ้มค่ากับสิ่งที่นักลงทุนรายต่อไปยินดีจ่ายเท่านั้น” เขากล่าว
ถึงกระนั้น หลายคนในด้านการเงินไม่มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว
“เราเชื่อว่า Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างนั้นเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป” คริส คิวเปอร์ (Chris Kuiper) รองประธานของ CFRA Research กล่าว
CFRA คาดว่า "ธนาคารขนาดใหญ่และสถาบันการเงินขนาดเล็กจะปรับใช้พวกมันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานและกรอบกฎหมาย/การกำกับดูแลยังคงอยู่ระหว่างการกำหนดขึ้นมา" คิวเปอร์กล่าวเสริม
คณะกรรมการบาเซิลซึ่งประสานงานด้านกฎระเบียบระหว่างธนาคารกลาง ในสัปดาห์นี้ได้เสนอกฎใหม่ที่จะกำหนดให้ธนาคารต้องจัดสรรเงินทุนสำหรับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล
แกรี เจนสเลอร์ (Gary Gensler) หัวหน้าคนใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวว่าเขาต้องการสนับสนุนการคุ้มครองนักลงทุนคริปโตโดยบอก CNBC ว่านักลงทุนเหล่านั้น "ไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่เหมือนในตลาดทุนหรือในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ซื้อขายล่วงหน้า"
Photo by Marco BELLO / AFP