posttoday

เงื่อนงำศึกชิงบัลลังก์จอร์แดนจะจบลงอย่างไร

05 เมษายน 2564

เมื่อพระอนุชาต่างมารดาของกษัตริย์จอร์แดนถูกกล่าวหาว่าวางแผนโค่นราชบัลลังก์และคุกคามความมั่นคงของประเทศโดยสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ

1. ส่งผลให้ทางการจอร์แดนควบคุมตัวอดีตมกุฎราชกุมาร ฮัมซาห์ บิน ฮุสเซน และผู้ต้องสงสัยอีกเกือบ 20 คนรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจอร์แดน พร้อมสอบสวนแผนการโค่นราชบัลลังก์ของกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน

2. รายงานระบุว่าผู้ที่ถูกจับกุมพร้อมกับเจ้าชายฮัมซาห์รวมถึง ชารีฟ ฮัสซัน บิน ซาอิด สมาชิกราชวงศ์อีกพระองค์หนึ่ง และ บาสเซม อาวาดัลเลาะห์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งเป็นคนสนิทของกษัตริย์และเป็นผู้มีอิทธิพลในการปฏิรูปเศรษฐกิจของจอร์แดน 

3. เจ้าชายฮัมซาห์ ทรงเปิดเผยผ่านคลิปวิดีโอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าพระองค์และพระสหายถูกกักบริเวณโดยเจ้าหน้าที่กองทัพฐานสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติเพื่อทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ยังห้ามมิให้ติดต่อกับบุคคลภายนอก

4. ขณะที่เจ้าชายฮัมซาห์ทรงปฏิเสธว่าพระองค์ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด พร้อมตรัสว่าในทางกลับกันจอร์แดนจะถูกบั่นทอนจากการคอร์รัปชัน เล่นพรรคเล่นพวก การปกครองประเทศที่ไร้ศักยภาพ และข่มขู่คุกคามประชาชนของบรรดาผู้นำประเทศต่างหาก

5. ด้านพระราชินีนูร์ พระมารดาของเจ้าชายฮัมซาห์ตรัสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าอดีตมกุฎราชกุมารทรงถูกกักบริเวณในพระตำหนัก พร้อมประณามการจับกุมครั้งนี้ว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี โดยพระราชินีทรงโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ความว่า "ขออธิษฐานให้ความจริงและความยุติธรรมมีชัยชนะสำหรับเหยื่อผู้บริสุทธิ์ทุกคนที่ถูกใส่ร้ายครั้งนี้ ขอพระเจ้าอวยพรและคุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัย"

6. ขณะที่กองทัพแย้งว่าสิ่งที่อดีตมกุฎราชกุมารตรัสนั้นไม่เป็นความจริง โดยพลตรี ยูซูฟ ฮูเนตี หัวหน้าเสนาธิการร่วมกล่าวว่า "สิ่งที่ได้รับการเผยแพร่เกี่ยวกับการจับกุมเจ้าชายฮัมซาห์นั้นไม่เป็นความจริง พระองค์เพียงแค่ถูกขอให้หยุดกิจกรรมบางอย่างที่สามารถใช้เพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพและความมั่นคงของจอร์แดน"

7. แฟรงก์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวจากบีบีซีวิเคราะห์ว่าวิกฤตในราชวงศ์จอร์แดนที่ดูเหมือนว่าจะรุนแรงจนควบคุมไม่อยู่ เนื่องจากจอร์แดนมีปัญหาบางอย่างในประเทศอยู่ก่อนแล้วรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจซึ่งตกต่ำมาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนต่างไม่พอใจเพิ่มมากขึ้น 

8. ข่าวนี้ได้รับความสนใจและติดตามจากหลายประเทศรวมถึงสหรัฐ ซึ่ง เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุว่ารัฐบาลสรัฐกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมถึงพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จอร์แดน เนื่องจากกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 ทรงเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐ

9. เช่นเดียวกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย เลบานอน อีรัก และอีกหลายประเทศก็แถลงการณ์แสดงจุดยืนสนับสนุนกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 เช่นกัน

10. ด้านวอชิงตันโพสต์ สื่อของสหรัฐรายงานว่าเจ้าชายฮัมซาห์ทรงถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับแผนการโค่นล้มบัลลังก์ของกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 พระเชษฐาของพระองค์ โดยอ้างถึงคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในตะวันออกกลางว่า "พบหลักฐานสิ่งที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังอธิบายว่าเป็นแผนการที่ซับซ้อนและหวังสูง คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนกับแผนการการนี้รวมถึงราชวงศ์จอร์แดนอย่างน้อยหนึ่งคน เช่นเดียวกับหัวหน้าเผ่า และสมาชิกหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศ"

11.ขณะที่รอยเตอร์สอ้างคำพูดของอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐคนหนึ่งซึ่งกล่าวว่าแผนการสั่นคลอนเสถียรภาพและความมั่นคงของจอร์แดนอาจไม่ได้เกิดในอนาคตอันใกล้นี้และไม่ใช่การก่อรัฐประหาร แต่เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนลุกฮือประท้วงโดนมีกลุ่มชนเผ่าหนุนหลัง

12. ทั้งนี้ เจ้าชายฮัมซาห์เป็นโอรสคนโตของกษัตริย์ฮุสเซนผู้ล่วงลับและราชินีนูร์พระมเหสีชาวอเมริกัน และเป็นพระอนุชาต่างมารดาของกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 พระองค์ถูกมองว่ามีความสนิทสนมกับชนเผ่าต่างๆ เนื่องจากพระองค์มักเสด็จพบปะกับผู้นำชนเผ่าต่างๆ ซึ่งให้การสนับสนุนพระองค์เป็นอย่างดี

13. เจ้าชายฮัมซาห์ทรงถูกแต่งตั้งให้เป็นมกุฎราชกุมารในปี 2542 และในปี 2547 กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 ทรงปลดเจ้าชายฮัมซาห์ออกจากตำแหน่ง และทรงแต่งตั้งเจ้าชายฮุสเซน พระราชโอรสองค์โตเป็นรัชทายาทแทน หลายคนมองว่านั่นสร้างความผิดหวังต่อพระราชินีนูร์อย่างมากซึ่งทรงหวังว่าจะได้เห็นพระราชโอรสพระองค์โตเป็นกษัตริย์

Photo by KHALIL MAZRAAWI / AFP