เสื้อแดงเผาเมือง ขึ้นทำเนียบที่สุด 10 ข่าวโลกแห่งปี
กลุ่มคนเสื้อแดงรั้งสุดยอด 10 ข่าวดังแห่งปี 2553 จากการประกาศผลของ นิตยสารไทม์
กลุ่มคนเสื้อแดงรั้งสุดยอด 10 ข่าวดังแห่งปี 2553 จากการประกาศผลของ นิตยสารไทม์
นิตยสารไทม์ แมกกาซีน นิตยสารเชิงข่าวชื่อดังของโลก เปิดเผยผลการจัดอันดับ 10 ข่าวดังที่สุดแห่งปี 2010 (Top 10 World News Stories) ปรากฏว่าข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ลงเอยด้วยการเผาสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ และการนองเลือดนั้น ติดทำเนียบ 10 ข่าวเด่นของโลกในปีนี้ด้วย
ไทม์ ระบุว่า เกิดความเคลื่อนไหวและข่าวสารขึ้นมากมายในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค.ที่ผ่านมาในประเทศไทย เมื่อผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวนมากรวมตัวกันที่บริเวณย่านธุรกิจ ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อแสวงหาหนทางในการโค่นล้มรัฐบาล ที่กลุ่มผู้เคลื่อนไหวเล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มชนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ในสังคมและมิได้มาจากความเป็นประชาธิปไตย โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าเชิงในนามของกลุ่มผู้เคลื่อนไหว
นอกจากนี้ ไทม์ยังระบุว่า นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความแตกร้าวที่ขยายวงกว้างมากขึ้นในประเทศไทย ระหว่างคนเมืองและคนชนบท คนรวยและคนจน และกลุ่มคนสนับสนุนพระมหากษัตริย์และกลุ่มประชานิยม
การประท้วงแปรเปลี่ยนเป็นฉากของความรุนแรง ด้วยการปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง นำไปสู่ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 91 คน และบาดเจ็บกว่า 1,800 คน ทำให้เหตุการณ์นี้ตกเป็นที่จับตาของสื่อต่างชาติทั่วโลก โดยมีรายงานและแพร่ภาพแทบตลอด 24 ชั่วโมง จากแนวเขตต่อสู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ไทม์ยังเห็นว่า แม้เหตุการณ์ทั้งหมดจะสงบลงแล้ว แต่อารมณ์และความรู้สึกของผู้คนยังคงคั่งค้างอยู่ในสังคมไทย
ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังรวมตัวในกรุงเทพฯ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อราว 6 เดือนก่อน ซึ่งนิตยสารดังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การเคลื่อนไหวและการประท้วงจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
ส่วนข่าวอื่นๆ ที่ติดอันดับแห่งปีครั้งนี้ ก็มีปรากฏการณ์ของเว็บไซต์วิกิลีกส์ที่ตั้งแต่เดือน ก.ค.ได้ปล่อยข้อมูลลับทางการทหารของสหรัฐ และส่งท้ายปีด้วยข้อมูลทางการทูตของสหรัฐและประเทศอื่นๆ อีกทั่วโลก
ขณะนี้ จูเลียน เอสแซงก์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวถูกจับกุมตัว แต่ไทม์เชื่อว่าอดีตผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลีย วัย 39 ปี รายนี้ก็ยังคงยิ้มเยาะได้กับสิ่งที่ยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทยอยปล่อยข้อมูลลับออกมารายวัน และการเห็นผู้นำโลกต้องออกมาขอโทษและประชุมด่วนท่ามกลางวิกฤตที่เป็นผลพวงจากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั้งนี้ ข่าวใหญ่แห่งปียังรวมถือเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศข้นแค้นถึง 2 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุแผ่นดินไหวในเฮติ และน้ำท่วมในปากีสถาน
ธรณีพิโรธในเฮติ เป็นเหตุการณ์ใหญ่รับศักราชใหม่ ซึ่งไทม์ระบุว่า แม้จะไม่ใช่เป็นแรงสั่นสะเทือนของแผ่นเปลือกโลกที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น แต่เป็นหายนะครั้งร้ายแรงที่สุด
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้รับการสังเวยด้วยชีวิตของประชาชนกว่า 2.3 แสนคน ประชาชนกว่า 1 ล้านคน กลายเป็นคนไร้บ้าน และถึงแม้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศจะหลั่งไหลเข้าไปอย่างฉับไวมาก แต่ความเสียหายก็ยังทำลายล้างและหยั่งรากลึกฝังตัวอยู่ในประเทศที่ยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตกแห่งนั้น
ไทม์ ทิ้งท้ายไว้เพียงว่า ถึงการเลือกตั้งในเฮติจะผ่านพ้นไป ก็ไม่ได้ยังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในประเทศ
นอกจากนั้น ก็ยังมีข่าวน้ำท่วมในปากีสถาน ที่เป็นต้นเหตุให้ชาวปากีสถานเสียชีวิตราวกว่า 2,000 คน และราว 20 ล้านคน ต้องเผชิญกับระดับน้ำที่ไต่สูงขึ้น
ทว่าอีกหนึ่งปาฏิหาริย์ของชีวิตที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกและรวมติดอยู่ในข่าวดังแห่งปีของไทม์อย่างแน่นอน คือ การช่วยเหลือชีวิตคนงานเหมืองในชิลี ซึ่งไทม์ระบุว่าเป็น 69 วัน ที่ระคนไปด้วยภาพชีวิต ไม่ต่างจากละครน้ำเน่า และเป็นเหตุการณ์ที่พลิกชีวิตคนงานเหมืองทั้ง 33 คน ให้กลายเป็นฮีโร่ที่ปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่งของสื่อทั่วโลก
ส่วนข่าวเศรษฐกิจหนึ่งเดียวที่มาแรงและติดอันดับ 1 ใน 10 ข่าวดังแห่งปี คือ มาตรการรัดเข็มขัดของยุโรป ที่เป็นผลพวงไม่หยุดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตหนี้ที่ทำให้ประเทศในยุโรปต้องงัดมาตรการรัดเข็มขัดตัดลดงบประมาณรายจ่ายออกมาใช้ ซึ่งตามมาด้วยการประท้วงรุนแรงอีกหลายประเทศ
นอกจากนี้ ข่าวในแวดวงกีฬาหนึ่งเดียวที่รั้งอยู่ในผลการสำรวจครั้งนี้ ได้แก่ มหกรรมฟุตบอลโลก ที่จัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ที่ดังตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นฟาดแข้ง เพราะสื่อต่างชาติประโคมข่าวและตั้งคำถามถึงความสามารถและศักยภาพของประเทศเจ้าภาพ
หนำซ้ำด้วยข่าวดังตั้งแต่เปิดมหกรรมวงการลูกหนัง ด้วยเหตุสลดการเสียชีวิตของหลานสาว เนลสัน แมนเดลา แต่ข่าวนี้ก็ดังปิดท้ายด้วยบทพิสูจน์ศักยภาพของแอฟริกาใต้ให้สื่อและทั่วโลกได้ประจักษ์ ในฐานะการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นข่าวดังอื่นๆ ที่เป็นที่สนใจจากทั่วโลกมากที่สุดในปีนี้ อาทิ พฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ การต่อต้านการก่อการร้ายในเยเมน และสงครามปราบปรามยาเสพติดในเม็กซิโกอีกด้วย