posttoday

เสื้อแดงเผาเมือง ขึ้นทำเนียบที่สุด 10 ข่าวโลกแห่งปี

14 ธันวาคม 2553

กลุ่มคนเสื้อแดงรั้งสุดยอด 10 ข่าวดังแห่งปี 2553 จากการประกาศผลของ นิตยสารไทม์

กลุ่มคนเสื้อแดงรั้งสุดยอด 10 ข่าวดังแห่งปี 2553 จากการประกาศผลของ นิตยสารไทม์

นิตยสารไทม์ แมกกาซีน นิตยสารเชิงข่าวชื่อดังของโลก เปิดเผยผลการจัดอันดับ 10 ข่าวดังที่สุดแห่งปี 2010 (Top 10 World News Stories) ปรากฏว่าข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ลงเอยด้วยการเผาสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ และการนองเลือดนั้น ติดทำเนียบ 10 ข่าวเด่นของโลกในปีนี้ด้วย

เสื้อแดงเผาเมือง ขึ้นทำเนียบที่สุด 10 ข่าวโลกแห่งปี

ไทม์ ระบุว่า เกิดความเคลื่อนไหวและข่าวสารขึ้นมากมายในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค.ที่ผ่านมาในประเทศไทย เมื่อผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวนมากรวมตัวกันที่บริเวณย่านธุรกิจ ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อแสวงหาหนทางในการโค่นล้มรัฐบาล ที่กลุ่มผู้เคลื่อนไหวเล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มชนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ในสังคมและมิได้มาจากความเป็นประชาธิปไตย โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าเชิงในนามของกลุ่มผู้เคลื่อนไหว

นอกจากนี้ ไทม์ยังระบุว่า นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความแตกร้าวที่ขยายวงกว้างมากขึ้นในประเทศไทย ระหว่างคนเมืองและคนชนบท คนรวยและคนจน และกลุ่มคนสนับสนุนพระมหากษัตริย์และกลุ่มประชานิยม

การประท้วงแปรเปลี่ยนเป็นฉากของความรุนแรง ด้วยการปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง นำไปสู่ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 91 คน และบาดเจ็บกว่า 1,800 คน ทำให้เหตุการณ์นี้ตกเป็นที่จับตาของสื่อต่างชาติทั่วโลก โดยมีรายงานและแพร่ภาพแทบตลอด 24 ชั่วโมง จากแนวเขตต่อสู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ไทม์ยังเห็นว่า แม้เหตุการณ์ทั้งหมดจะสงบลงแล้ว แต่อารมณ์และความรู้สึกของผู้คนยังคงคั่งค้างอยู่ในสังคมไทย

ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังรวมตัวในกรุงเทพฯ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อราว 6 เดือนก่อน ซึ่งนิตยสารดังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การเคลื่อนไหวและการประท้วงจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต

ส่วนข่าวอื่นๆ ที่ติดอันดับแห่งปีครั้งนี้ ก็มีปรากฏการณ์ของเว็บไซต์วิกิลีกส์ที่ตั้งแต่เดือน ก.ค.ได้ปล่อยข้อมูลลับทางการทหารของสหรัฐ และส่งท้ายปีด้วยข้อมูลทางการทูตของสหรัฐและประเทศอื่นๆ อีกทั่วโลก

ขณะนี้ จูเลียน เอสแซงก์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวถูกจับกุมตัว แต่ไทม์เชื่อว่าอดีตผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลีย วัย 39 ปี รายนี้ก็ยังคงยิ้มเยาะได้กับสิ่งที่ยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทยอยปล่อยข้อมูลลับออกมารายวัน และการเห็นผู้นำโลกต้องออกมาขอโทษและประชุมด่วนท่ามกลางวิกฤตที่เป็นผลพวงจากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทั้งนี้ ข่าวใหญ่แห่งปียังรวมถือเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศข้นแค้นถึง 2 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุแผ่นดินไหวในเฮติ และน้ำท่วมในปากีสถาน

ธรณีพิโรธในเฮติ เป็นเหตุการณ์ใหญ่รับศักราชใหม่ ซึ่งไทม์ระบุว่า แม้จะไม่ใช่เป็นแรงสั่นสะเทือนของแผ่นเปลือกโลกที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น แต่เป็นหายนะครั้งร้ายแรงที่สุด

จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้รับการสังเวยด้วยชีวิตของประชาชนกว่า 2.3 แสนคน ประชาชนกว่า 1 ล้านคน กลายเป็นคนไร้บ้าน และถึงแม้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศจะหลั่งไหลเข้าไปอย่างฉับไวมาก แต่ความเสียหายก็ยังทำลายล้างและหยั่งรากลึกฝังตัวอยู่ในประเทศที่ยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตกแห่งนั้น 

เสื้อแดงเผาเมือง ขึ้นทำเนียบที่สุด 10 ข่าวโลกแห่งปี

ไทม์ ทิ้งท้ายไว้เพียงว่า ถึงการเลือกตั้งในเฮติจะผ่านพ้นไป ก็ไม่ได้ยังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในประเทศ

นอกจากนั้น ก็ยังมีข่าวน้ำท่วมในปากีสถาน ที่เป็นต้นเหตุให้ชาวปากีสถานเสียชีวิตราวกว่า 2,000 คน และราว 20 ล้านคน ต้องเผชิญกับระดับน้ำที่ไต่สูงขึ้น

ทว่าอีกหนึ่งปาฏิหาริย์ของชีวิตที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกและรวมติดอยู่ในข่าวดังแห่งปีของไทม์อย่างแน่นอน คือ การช่วยเหลือชีวิตคนงานเหมืองในชิลี ซึ่งไทม์ระบุว่าเป็น 69 วัน ที่ระคนไปด้วยภาพชีวิต ไม่ต่างจากละครน้ำเน่า และเป็นเหตุการณ์ที่พลิกชีวิตคนงานเหมืองทั้ง 33 คน ให้กลายเป็นฮีโร่ที่ปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่งของสื่อทั่วโลก

ส่วนข่าวเศรษฐกิจหนึ่งเดียวที่มาแรงและติดอันดับ 1 ใน 10 ข่าวดังแห่งปี คือ มาตรการรัดเข็มขัดของยุโรป ที่เป็นผลพวงไม่หยุดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตหนี้ที่ทำให้ประเทศในยุโรปต้องงัดมาตรการรัดเข็มขัดตัดลดงบประมาณรายจ่ายออกมาใช้ ซึ่งตามมาด้วยการประท้วงรุนแรงอีกหลายประเทศ

นอกจากนี้ ข่าวในแวดวงกีฬาหนึ่งเดียวที่รั้งอยู่ในผลการสำรวจครั้งนี้ ได้แก่ มหกรรมฟุตบอลโลก ที่จัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ที่ดังตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นฟาดแข้ง เพราะสื่อต่างชาติประโคมข่าวและตั้งคำถามถึงความสามารถและศักยภาพของประเทศเจ้าภาพ

หนำซ้ำด้วยข่าวดังตั้งแต่เปิดมหกรรมวงการลูกหนัง ด้วยเหตุสลดการเสียชีวิตของหลานสาว เนลสัน แมนเดลา แต่ข่าวนี้ก็ดังปิดท้ายด้วยบทพิสูจน์ศักยภาพของแอฟริกาใต้ให้สื่อและทั่วโลกได้ประจักษ์ ในฐานะการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นข่าวดังอื่นๆ ที่เป็นที่สนใจจากทั่วโลกมากที่สุดในปีนี้ อาทิ พฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ การต่อต้านการก่อการร้ายในเยเมน และสงครามปราบปรามยาเสพติดในเม็กซิโกอีกด้วย