posttoday

UN แฉแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือฉกเงินกว่า 9 พันล้านสมทบทุนอาวุธนิวเคลียร์

10 กุมภาพันธ์ 2564

องค์การสหประชาชาติชี้การโจรกรรมทางไซเบอร์ขโมยเงินดิจิทัลกว่า 9 พันล้านบาทเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ

ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ (UN) เผยว่าเกาหลีเหนือแฮ็กข้อมูลทางไซเบอร์ขโมยเงินคริปโตมูลค่าราว 316.4 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 9 พันล้านบาทตั้งแต่ปี 2019 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2020 เพื่อสมทบทุนโครงการสร้างขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์

ตามรายงานอ้างว่าสถาบันการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตราถูกแฮ็กเพื่อนำเงินไปพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการโจรกรรม 2 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว

โดยคณะกรรมการของ UN กล่าวว่ากำลังตรวจสอบการแฮ็กในเดือนกันยายนปี 2020 ซึ่งมีการขโมยเงินดิจิทัลมูลค่า 281 ล้านเหรียญสหรัฐ และการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งที่ 2 มีการขโมยเงิน 23 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนต่อมา โดยการวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ว่าการแฮ็กดังกล่าวเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ รายงานระบุว่าเหยื่อของการขโมยเงินดิจิทัลมูลค่า 281 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนกันยายนคือ KuCoin ซึ่งเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าสามารถกู้เงินคืนได้แล้วกว่า 80%

ทางด้านจอห์นนี ลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KuCoin กล่าวก่อนหน้านี้ว่าทราบตัวแฮ็กเกอร์แล้วแต่จะสามารถเปิดเผยได้ต่อเมื่อปิดคดีแล้วเท่านั้น ซึ่งขณะอยู่ระหว่างการตามล่าตัวผู้ต้องสงสัย

นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังถูกกล่าวหาว่าขโมยเงิน 81 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารกลางบังกลาเทศ รวมถึงขโมยเงิน 60 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคาร Far Eastern International ของไต้หวัน

เป็นที่ทราบกันดีว่าเกาหลีเหนือมีแฮ็กเกอร์ฝีมือดีที่ได้รับการฝึกฝนหลายพันคน ซึ่งสามารถเข้าถึงบริษัทและสถาบันในเกาหลีใต้รวมถึงที่อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

ทั้งนี้ ความสามารถในการโจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือถูกพูดถึงในระดับโลกครั้งแรกเมื่อปี 2014 เมื่อถูกกล่าวหาว่ามีการแฮ็ก Sony Pictures Entertainment เพื่อแก้แค้นหลังบริษัทดังกล่าวสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Interview ที่ล้อเลียนเสียดสีผู้นำคิม จอง อึน

รวมถึงในปี 2017 เกาหลีเหนือยังถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการปล่อยแรนซัมแวร์ "WannaCry" เพื่อโจมตีคอมพิวเตอร์ 300,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลกและเรียกค่าไถ่หลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ

Photo by STR / KCNA VIA KNS / AFP