โชคร้ายของ Huawei คือโชคดีของ Xiaomi
ยอดขายของ Xiaomi เติบโตขณะที่ Huawei ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ
บริษัทเสียวหมี่ (Xiaomi) เผยรายได้เติบโตเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากหัวเว่ย (Huawei) บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่จากจีนถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ
เสียวหมี่ รายงานว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 34.5% ซึ่งคิดเป็น 72,000 ล้านหยวนในไตรมาสที่ 3 โดยกว่าครึ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ รวมถึงมีการจัดส่งต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 42% ในไตรมาสที่ 3 ในขณะที่หัวเว่ยมีรายได้จากต่างประเทศน้อยลง
โดยเสียวหมี่เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนเพียงไม่กี่แห่งที่เติบโตในต่างประเทศ ได้เฉพาะทำรายได้จากการขายหม้อไฟฟ้า และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเพิ่มขึ้นถึง 56.2% ในไตรมาสที่ 3
ขณะนี้เสียวหมี่กำลังขยายส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการโทรศัพท์ราคาประหยัดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงอุปทานและความต้องการสินค้าของหัวเว่ยหยุดชะงัก นอกจากนี้หุ้นของเสียวหมี่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2020 และมีรายได้สุทธิ 4.1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดขาย 3.3 พันล้านหยวน
ทั้งนี้เสียวหมี่ประกาศว่าจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Smartphone + AIoT คือมุ่งทำธุรกิจสมาร์ทโฟนควบคู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต โดยในไตรมาสที่ 3 การจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก ขณะที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มีรายได้จากต่างประเทศมากที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ
โดยผลประกอบการของเสียวหมี่เติบโตอย่างก้าวกระโดดแม้ในวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมตลาดทั่วโลก
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้วยังมีสินค้าที่เป็นที่นิยม และทำรายได้ให้แก่เสียวหมี่เป็นจำนวนมาก อาทิ นาฬิกาอัจฉริยะ หม้อทอด เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องฟอกอากาศ เป็นต้น
Photo by FRED DUFOUR/AFP