posttoday

อินโดเนื้อหอม หลายเจ้าเล็งใช้เป็นฐานผลิตวัคซีนโควิด-19

20 พฤศจิกายน 2563

บริษัทผลิตวัคซีนหลายแห่งเล็งทดสอบและผลิตวัคซีนในอินโดนีเซีย

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่าอินโดนีเซียกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางในการผลิตและจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการติดต่อจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายราย

เพนนี ลูกิโต หัวหน้าสำนักงานควบคุมยาและอาหารแห่งชาติอินโดนีเซีย (BPOM) กล่าวว่าได้รับการติดต่อจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ของสหราชอาณาจักรเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในอินโดนีเซีย

นอกจากนี้รัฐบาลรัสเซียยังได้ส่งจดหมายไปยังหน่วยงานสาธารณสุขของอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทดสอบและจำหน่ายวัคซีนสปุตนิกไฟว์ (Sputnik V) ของรัสเซียในอินโดนีเซีย

รวมถึงบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) จากประเทศจีนได้อนุญาตให้บริษัทไบโอฟาร์มา (Bio Farma) ของอินโดนีเซียผลิตวัคซีนของซิโนแวค ซึ่งคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีนคู่ขนานจำนวน 260 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรชาวอินโดนีเซียทั้งหมด 270 ล้านคน และอินโดนีเซียจะกลายเป็นศูนย์กลางในการผลิตวัคซีนของซิโนแวค

อีกทั้งอินโดนีเซียยังได้ทำข้อตกลงในการจัดหาวัคซีนจากแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ (CanSino Biologics) และซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีนอีกด้วย

เพนนี มองว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้เปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมยาของอินโดนีเซียเติบโตทุกภาคส่วน ไม่เพียงแต่บริษัทยาของรัฐบาลเท่านั้น

การผูกสัมพันธ์กับบริษัทผู้ผลิตยาแนวหน้าไม่ว่าจะเป็นการทดสอบวัคซีนหรือการจัดหาวัคซีน ช่วยให้อินโดนีเซียสามารถรับมือกับโรคระบาดที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศกว่า 483,000 คน และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 15,000 คน นอกจากนี้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังเกิดภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หดตัวร้อยละ 3.49 ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้