posttoday

ความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังทรัมป์สั่งถอนทหาร 2 หมื่นนายจากเยอรมนี

30 กรกฎาคม 2563

การถอนทหารออกจากเยอรมนี เผชิญแรงต้านจากทั้งพรรครีพับลิกันของทรัมป์เองและจากพรรคเดโมแครต แต่ทรัมป์ก็ยังสั่งเดินหน้าต่อ

ในที่สุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ก็เดินหน้าแผนการถอนทหารอเมริกัน 12,000 นาย ออกจากเยอรมนี  โดยในจำนวนนี้ 5,600 นายจะถูกส่งไปประจำการที่ชาติอื่นในยุโรป ซึ่งรวมถึงอิตาลีและเบลเยียม ขณะที่อีก 6,400 นายจะเดินทางกลับสหรัฐ

การถอนทหารออกจากเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรนาโต เผชิญแรงต้านจากทั้งพรรครีพับลิกันของทรัมป์เองและจากพรรคเดโมแครต ซึ่งมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้รัสเซียได้เปรียบสหรัฐในแง่ของยุทธศาสตร์กองทัพ

ทว่า ทรัมป์ให้เหตุผลในการถอนทหารออกจากเยอรมนีไว้ 2 ข้อคือ 1) ไม่พอใจที่รัฐบาลเยอรมนีไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงนาโตที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกจ่ายงบประมาณป้องกันประเทศ 2% ของจีดีพี เพราะทรัมป์มองว่าสหรัฐต้องนำเงินภาษีของประชาชนมาแบกรับค่าใช้จ่ายในการปกป้องเยอรมนี แต่เยอรมนีกลับไม่ให้ความสำคัญกับงบประมาณในส่วนนี้

แต่ข้ออ้างนี้ก็ดูไม่ค่อยมีน้ำหนักมากนัก เพราะทั้งเบลเยียมและอิตาลีที่ทางการสหรัฐเอ่ยปากว่าจะย้ายทหารอเมริกันไปประจำการ ใช้งบประมาณด้านการป้องกันประเทศน้อยกว่าเยอรมนี และเกือบต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกนาโต

ส่วนเหตุผลข้อ 2 คือ เยอรมนียังเดินหน้าสนับสนุนเงินทุนให้รัสเซียในการก่อสร้างท่อขนส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 เชื่อมระหว่างรัสเซียกับเยอรมนี ทรัมป์มองว่าเยอรมนีผูกโยงเศรษฐกิจกับรัสเซียมากกว่า ในขณะที่สหหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนี

แต่นักวิเคราะห์บางรายมองว่ายังมีเหตุผลอื่นอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของทรัมป์อีก เนื่องจากเยอรมนีถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในต่างประเทศที่สำคัญของสหรัฐ เพราะเป็นศูนย์กลางในการเคลื่อนย้ายกองกำลังทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาวเผยว่า  การเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจากเยอรมนีเป็นการตอบโต้จีนและรัสเซีย ซึ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายต่างประเทศของสหรัฐให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักตามแคมเปญหาสียงของทรัมป์คือ America First (อเมริกาต้องมาก่อน)

ขณะที่ นอร์เบิร์ต เริตเทิน ประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศสภาเยอรมนีเผยว่า ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของทรัมป์ก็คือ ต้องการหาเสียงจากชาวอเมริกันสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้

ส่วน จอห์น คอร์นบลุม อดีตทูตสหรัฐประจำเยอรมนีมองว่า คำพูดของทรัมป์เป็นแค่การคุยโวโดยไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ก็เท่ากับว่าสหรัฐใช้การถอนทหารมาข่มขู่ให้ยอรมนีตัดสัมพันธ์กับจีนและรัสเซียซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐ