หวั่นระบาดรอบสอง คาดตลาดหุ้นออกอาการผวาจนกว่าจะมีวัคซีน

ความกังวลว่าบางประเทศอาจจะเกิดการระบาดของโควิด-14 ระลอกที่ 2 ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับลดลง บรรยากาศแห่งความกลัวที่เกิดขึ้นในตลาดทุนเกิดขึ้นเมื่อหลายๆ ประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์เพื่อที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หยุดชะงักมานานนับเดือน และดัชนีเศรษฐกิจหลายตัวในหลายประเทศเริ่มบ่งชี้ถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี

อย่างไรก็ตาม การเร่งเปิดเมืองอาจทำให้เกิดการระบาดระลอกสองได้ และนักวิเคราะห์เชื่อว่าหากเกิดการล็อคดาวน์รอบที่ 2 ผลกระทบของมันจะเลวร้ายกว่ารอบแรก

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่น 24.18 จุดอยู่ที่ 20,366.48 จุด ดังนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 356.38 อยู่ที่ 24,245.68 จุด ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 13.23 มาอยู่ที่ จุด 1,922.17 และดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.11% อยู่ที่ 2,891.56 จุด

ความเห็นของนักวิเคราะห์

1. Stephen Innes ของ AxiCorp กล่าวกับ AFP ว่า มีข้อบ่งชี้ว่าเมื่อมีการใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นจะนำไปสู่การเกิดการระบาดอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เขายังชี้ว่าตอนนี้รายงานข่าวต่างเน้นถึงผลด้านลบของการเปิดเมืองอีกครั้ง

2. Innes ยังคาดว่าถึงแม้ตลาดอาจจะรับได้กับการระบาดในวงจำกัด แต่ตลาดไม่สามารถหยุดความวิตกเรื่องการระบาดรองที่สองได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและทำให้การรีบาวด์ได้รับผลกระทบ เขาเสริมว่านักลงทุนจะต้องเตรียมใจรับความไม่แน่นอนดังกล่าว จนกว่าจะมีวัคซีน

3. Jane Foley และ Piotr Matys นักยุทธศาสตร์อัตราแลกเปลี่ยนของ Rabobank บอกกับสำนักข่าว Reuters ว่า แม้แต่หุ้นที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดก็อาจต้องดิ้นรนเพื่อรักษากำไรที่เพิ่งได้มา ท่ามกลางสัญญาณที่น่าเป็นห่วงว่าการปลดล็อคจะเพิ่มความเสี่ยงของคลื่นการระบาดระลอกที่สอง

4. Jeffrey Halley นักวิเคราะห์การตลาดของ OANDA กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่าตลาดมีความกังวลเล็กน้อยจากโอกาสที่จะเกิดการระบาดครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในประเทศจีนและเกาหลีใต้ และผลกระทบต่อการระบาดระลอกใหม่ในประเทศเหล่านี้ต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และตลาดยังสะเทือนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แต่เขาเชื่อว่าประเด็นหลังมีผลกระทบในวงจำกัด

Bob Baur หัวหน้านักเศรษฐกิจโลกของ Principal Global Investors กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า การเปิดตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปตามทิศทางในประเทศจีน แต่ไม่จำเป็นที่จะฟื้นเต็มขีดความสามารถ เพราะถึงแม้ว่าธุรกิจส่วนใหญ่ในจีนจะเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังตัว ร้านอาหารเปิดแล้วแต่ที่นั่งว่าง ยอดขายรถยนต์ดีดกลับจากระดับต่ำสุดแต่ยังต่ำกว่าระดับปกติ ดังนั้น ผู้บริโภคในสหรัฐและยุโรปจะเลียนแบบจีนแน่นอนแม้จะเปิดเมืองแล้วก็ตาม

Photo by Johannes EISELE / AFP