นักวิจัยจีนพบเชื้อโควิดแฝงในน้ำอสุจิผู้ป่วย

เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า ทีมนักวิจัยจีนได้เผยการวิจัยใหม่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ The Journal of the American Medical Association โดยพบว่าในตัวอย่างน้ำอสุจิของผู้ป่วยโควิด-19 ในชาย 6 คน จากกลุ่มตัวอย่างของผู้ป่วย 38 คน ในโรงพยาบาลเมืองซางฉิว (Shangqiu Municipal Hospital) มณฑลเหอหนานของจีน เมื่อช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ พบเชื้อไวรัสโควิดแฝงตัวอยู่

จำนวนผู้ป่วย 6 รายที่พบนี้มี 4 คนยังคงเข้ารับการรักษาตัวอยู่ ส่วนอีก2เป็นผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว

อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยจีนระบุในรายงานว่า การค้นพบนี้ยังเป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น และเป็นการเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่ราย ดังนั้นจึงยังต่อศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาความชัดเจนว่า การมีเพศสัมพันธ์จะส่งผลต่อการระบาดของโควิด-19 มากน้อยเพียงใด รวมทั้งมีผลต่อการสืบพันธุ์โดยรวมของเพศชายหรือไม่

"หากพิสูจน์ได้ว่า Covid-19 สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ .. นั่นอาจเป็นส่วนสำคัญในอีกขั้นหนึ่งของการป้องกันการแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาปัจจัยที่ว่าพบเชื้อไวรัสแฝงอยู่ในอสุจิของผู้ป่วยบางรายที่ฟื้นตัวเแล้ว"

อย่างไรก็ดี ดร. Ryan Berglund ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะจาก Cleveland Clinic's Glickman Urological and Kidney Institute กล่าวว่า การพบไวรัสในตัวอย่างอสุจินั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยพบไวรัสในอุจจาระและสารคัดหลั่งอื่นๆจากร่างกายเช่นกัน อีกทั้งไวรัสชนิดอื่นๆอย่างซิก้าและอีโบล่า ต่างก็เคยถูกพบในเชื้ออสุจิเช่นกัน

ทั้งนี้ ในรายงานไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดว่าความเข้มข้นของเชื้อในน้ำอสุจิมีเท่าใด หรืออาจเป็นดีเอ็นเอของซากเชื้อที่ตายแล้ว รายงานดังกล่าวจึงไม่ควรด่วนสรุปว่า การพบเชื้อโควิดในน้ำอสุจิเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อผ่านเพศสัมพันธุ์ได้