นักวิทย์อังกฤษชี้เชื้อโคโรนาไวรัสมาจากจีนใต้ ไม่ใช่อู่ฮั่น

ปีเตอร์ ฟอสเตอร์ นักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษและทีม ดำเนินโครงการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจกระบวนการที่นำมาสู่การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ด้วยการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของพันธุกรรมของไวรัสกว่า 1,000 ตัวอย่าง เพื่อทำแผนผังการแพร่ระบาด 

จากการวิเคราะห์พบว่ามีเชื้อโคโรนาไวรัส 3 ชนิด คือชนิดเอ บี และซี โดยชนิดเอมีความใกล้เคียงกับเชื้อโคโรนาไวรัสในค้างคาวมากที่สุด และเชื่อว่าเป็นพันธุกรรมของไวรัสดั้งเดิมที่อยู่ในมนุษย์ พบได้ในจีน สหรัฐ และยังพบไวรัสชนิดเอที่กลายพันธุ์แล้วในออสเตรเลียและสหรัฐด้วย 

ฟอสเตอร์พบว่า เชื้อไวรัสในเมืองอู่ฮั่นส่วนใหญ่ไม่ใช่ชนิดเอ แต่เป็นชนิดบีและเชื่อว่าอาจมีไวรัสชนิดบีแยกย่อยลงไปอีก ส่วนชนิดซีซึ่งเป็นลูกของชนิดบี พบได้ในยุโรป เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และฮ่องกง แต่ไม่พบในจีนแผ่นดินใหญ่ 

จากข้อมูลที่ฟอสเตอร์และทีมรวบรวมได้ พบว่าเชื้อโคโรนาไวรัสน่าจะเริ่มแพร่ระบาดระหว่างวันที่ 13 ก.ย. ถึงวันที่ 7 ธ.ค.ปีที่แล้ว และอาจจะอยู่ในตัวมนุษย์หรือสัตว์ อาทิ ค้างคาวก่อนหน้านั้นแล้ว ก่อนที่จะพัฒนาตัวเองให้มีความรุนแรงขึ้นแล้วก่อให้เกิดการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ ฟอสเตอร์ยังเผยอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโคโรนาไวรัสอาจไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่น แต่อาจมาจากเมืองทางตอนใต้ เนื่องจากจนถึงวันที่ 17 ม.ค. ดีเอ็นเอของไวรัสที่สกัดออกมาจากผู้ป่วยเกือบทั้งหมดเป็นไวรัสชนิดบี ขณะที่ในเมืองกวางตุ้งที่อยู่ทางตอนใต้ของจีน 7 จาก 11 ตัวอย่างเป็นชนิดเอที่เกิดขึ้นก่อน

อย่างไรก็ดี งานวิจัยชิ้นนี้ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ยังต้องรอการศึกษาค้างคาวและสัตว์ชนิดอื่น รวมทั้งตัวอย่างเนื้อเยื่อของผู้ป่วยในจีนเพิ่มเติมก่อนจึงจะสรุปได้อย่างแน่ชัด

งานวิจัยชิ้นนี้ถือเป็นการพลิกทฤษฏีเกี่ยวกับที่มาและเวลาที่เชื้อเริ่มระบาดก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่ามาจากเมืองอู่ฮั่นที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ