สิงคโปร์จ่ายชดเชยค่าจ้างสูงถึง 75% ให้พนักงานทุกคน

นาย Heng Swee Keat รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสิงคโปร์ได้แถลงต่อสภาว่า จากที่นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง ได้แถลงใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์เพื่อเป็นการยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีการปิดภาคธุรกิจที่ไม่จำเป็น รวมถึงปิดโรงเรียนสถานศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานในธุรกิจองค์กรหลายภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ

รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้ผุดแผนงบประมาณที่เรียกว่า “Solidarity Budget” ซึ่งเป็นงบประมาณที่ไว้ใช้เยียวยาและชดเชยให้กับทั้งบริษัทในประเทศและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสระบาดซึ่งทำให้ภาคธุรกิจซบเซา เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานต้องตกงานและเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้บริษัทในยามที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักจากมาตรการปิดดังกล่าว

“Solidarity Budget” เป็นแผนอุ้มเศรษฐกิจเพื่อรับมือผลกระทบจากไวรัสชุดที่สาม มูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่รัฐบาลสิงคโปร์นำออกมาใช้พยุงเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากไวรัส โดยจำนวนนี้ถึง 4 พันล้านเป็นการดึงเงินมาจากทุนสำรองประเทศ

มาตรการเยียวยาชดเชยค่าจ้างในที่คนสิงคโปร์จะได้รับนั้นจะได้รับแต่ต่างกันมากน้อยขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจขององค์กรนั้นๆ จากระดับน้อยสุดที่ร้อยละ 25% ของค่าจ้าง ไปจนถึงร้อยละ 50 ในภาคธุรกิจอาหาร และสูงสุดที่ร้อยละ 75%ของค่าจ้างในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบิน โดยจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวทันทีในเดือนนี้จนถึงเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีพนักงานในบริษัททั่วสิงคโปร์ที่จะได้รับชดเชยจากรัฐบาลภายใต้แผนนี้ราว 1.9 ล้านคน โดยรัฐบาลเตรียมขยายแผนดังกล่าวให้คลอบคลุมถึงยังผู้ทำงานอิสระอย่างฟรีแลนซ์ และอาจเพิ่มเงินค่าเลี้ยงดูบุตรด้วยหากแรงงานคนนั้นๆมีภาระด้านการดูแลบุตร