posttoday

“ถ้าฉันตายฉันอยากตายในประเทศตัวเอง” คนไทยบนเที่ยวบินสุดท้ายจากสิงคโปร์

29 มีนาคม 2563

ก่อนที่เที่ยวบนิจะหยุดให้บริการคนไทยจำนวนหนึ่งขอกลับบ้านไม่อยากจะติดค้างในต่างแดน

ในขณะที่สายการบินทั่วโลกลดเที่ยวบินเนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เที่ยวบินสุดท้ายจากสิงคโปร์ไปยังกรุงเทพออกเดินทางเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีผู้โดยสารเพียงไม่กี่สิบคน

“ถ้าฉันตายฉันอยากตายในประเทศตัวเอง” Chinana Dotkhruea ชาวไทยวัย 66 ปีกล่าว โดยเธออยู่ในสิงคโปร์เพื่อมาดูแลหลานสาวของเธอ

หลังจากที่ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดี ก็ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเลยยกเว้นประชาชนของตัวเองเดินทางเข้ามาในประเทศ และวางข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับคนไทยที่จะกลับเข้ามาในประเทศจะต้องมีเอกสารพิเศษยืนยันสุขภาพ

เที่ยวบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ในวันเสาร์เป็นเที่ยวบินสุดท้ายที่ให้บริการมายังประเทศไทย ไม่มีใครรู้ว่าเที่ยวบินนี้จะกลับมาให้บริการอีกเมื่อใด

สนามบินชางงีของสิงคโปร์เกือบจะว่างเปล่าโดยมีเคาน์เตอร์เช็คอินเปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารที่ทิ้งกระเป๋าไว้เท่านั้น ภายในอาคารผู้โดยสารสายการบิน พนักงานยืนอยู่โดยไม่มีลูกค้าให้คอยดูแล ผู้โดยสารเกือบทั้งหมดสวมหน้ากากและสวมถุงมือ

ผู้โดยสารอีกคนคือ Ammara Viparsinon บอกว่าเธอกลัวว่าถ้าเธอจะไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้เธอก็อาจติดค้างอยู่นอกประเทศ

Ammara วัย 33 ปีกล่าวว่าเธอตกใจที่ราคาตั๋วแพงถึง 600 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 13,670 บาท) ซึ่งสูงถึงประมาณสองเท่าของราคาปกติ แต่บอกว่าเธอรู้สึกว่าไม่มีทางเลือกเพราะเส้นทางอื่นๆ ที่จะเข้ามาในประเทศไทยจะต้องมีการเชื่อมต่อและหยุดพักระหว่างทางที่ยาวนานและมีราคาแพงกว่า

“มีความเสี่ยงสูงเกินไปดังนั้นฉันจึงควรใช้เที่ยวบินตรงเที่ยวสุดท้ายนี้ดีกว่า” เธอกล่าว

สิงคโปร์มีผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณ 740 รายและได้รับการชื่นชมในกระบวนการกักกันอย่างรวดเร็วและเข้มงวดและการติดตามผู้ติดต่อเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค

แปลจาก Thai nationals take last flight from Singapore to avoid being stranded by Jiraporn Kukahan / Reuters Writing by Kay Johnson; Editing by Mike Harrison