posttoday

เปิดเบื้องหลังลัทธิชินชอนจี ต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อโคโรนาในเกาหลีใต้

27 กุมภาพันธ์ 2563

ชาวเกาหลีใต้ไม่พอใจลัทธิชินชอนจีอย่างหนัก เนื่องจากเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง จนเกิดการล่ารายชื่อกว่า 552,000 รายชื่อ เรียกร้องให้รัฐบาลยุบลัทธิ

ลัทธิความเชื่อทางศาสนาในเกาหลีใต้กลายเป็นจุดสนใจของชาวโลกหลังจากพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในเกาหลีใต้เป็นสาวกของลัทธิชินชอนจี

ชื่อเสียงฉาวโฉ่ของลัทธิชินชอนจี เกิดขึ้นเพราะความไม่รับผิดชอบของคุณป้าวัย 61 ปีจากเมืองแทกู ซึ่งตอนนี้ได้รับการขนานนามว่า “ผู้ป่วยรายที่ 31” (patient 31)

คุณป้ามหาภัยรายนี้ไม่ยอมบอกแพทย์ว่าเคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นของจีน และปฏิเสธการตรวจหาเชื้อหลายครั้งทั้งๆ ที่แพทย์แนะนำให้ตรวจ และผลการเอกซ์เรย์ปอดก็พบว่าเป็นโรคปอดบวมอย่างชัดเจน

อีกทั้งระหว่างที่รักษาตัวในโรงพยาบาลก็แอบหนีออกไปทำพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ของลัทธิในเมืองแทกูอย่างน้อย 4 ครั้ง ทำให้มีสาวกในโบสถ์ติดเชื้อหลายร้อยราย

อีโฮยอน อดีตสาวกของลัทธิเผยว่า ระหว่างประกอบพิธีสาวกต้องนั่งบนพื้นและนั่งชิดกันชนิดศอกชนศอกเข่าชนเข่า และถูกสั่งห้ามไม่ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือแว่นตา บางคนยังมาที่โบส์ทั้งที่ไม่สบาย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) เผยว่าสภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้เชื้อแพร่ในกลุ่มสาวกอย่างรวดเร็ว 

ลัทธิชินชอนจี แปลว่า ดินแดนและสวรรค์แห่งใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1984 โดยอีแมนฮี เจ้าลัทธิวัย 88 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นพระเยซูที่เสด็จกลับมาบนโลกอีกครั้ง (second coming) และจะนำพาสาวก 144,000 คนขึ้นสวรรค์ไปด้วยในวันพิพากษาโลก รวมทั้งอ้างว่าคัมภีร์ไบเบิลเขียนโดยใช้อุปมาอุปไมย มีเพียงเจ้าลัทธิคนเดียวเท่านั้นที่ตีความได้อย่างถูกต้อง

เจ้าลัทธิยังอ้างว่าตัวเองมีสายเลือดของกษัตริย์ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาเป็นลูกชายของครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งในเมืองช็องโดเท่านั้น และก่อนที่จะมาเป็นเจ้าลัทธิชินชอนจี เขาเคยเป็นสาวกของลัทธิ Olive Tree ที่ได้รับความิยมในช่วงปี 1950-1960

ลัทธิชินชอนจีมีสาวกราว 300,000 คนกระจายอยู่ตามโบสถ์ราว 600 แห่งใน 29 ประเทศ อาทิ แอฟริกาใต้ คองโก คอสตาริกา เกาหลีใต้ และจีนซึ่งมีทั้งหมด 7 โบสถ์ในปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ รวมถึงเมืองอู่ฮั่นศูนย์กลางการระบาดของโรค Covid-19

เว็บไซต์ของลัทธิระบุว่า ลัทธิเพิ่งเปิดสาขาที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อปีที่แล้ว แต่หลังจากเกิดกรณีคุณป้ามหาภัยคนไข้รายที่ 31 ในเกาหลีใต้ ก็ไม่พบข้อความดังกล่าวในเว็บไซต์แล้ว

หลังจากทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่ายังไม่สามารถตามตัวสาวกลัทธิชินชอนจีเพื่อนำตัวมาตรวจสอบการติดเชื้ออีกเกือบ 1,000 ราย ก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจต่อลัทธินี้ จนมีการล่ารายชื่อส่งไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อให้ยุบลัทธิชินชอนจีแล้วกว่า 552,000 รายชื่อ

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นแหล่งปฏิบัติการณ์ของลัทธิความเชื่อต่างๆ มากมาย บางลัทธิสามารถความมั่งคั่งและเพราะสร้างอิทธิพลในประเทศ

เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ช็อกทั้งประเทศคือ โศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่มเมื่อปี 2014 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน เพราะมีการเปิดเผยว่าบริษัทเจ้าของเรือลำนี้ควบคุมโดยเจ้าลัทธิที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนนอกรีต

หรือในกรณีของอดีตประธานาธิบดี พัคกึนเฮ ที่เป็นเพื่อนกับ ชเวซุนซิล ลูกสาวของเจ้าลัทธินอกรีตลัทธิหนึ่ง

เพื่อนสนิทรายนี้และพ่อของเธอเคยอ้างอำนาจพิเศษล่อลวง พัคชองฮี อดีตผู้นำประเทศซึ่งเป็นบิดาของพัคกึนเฮ และตัวอดีตผู้นำหญิงเองจนหลงเชื่อหัวปักหัวปำ ถึงขนาดชเวซุนซิลเข้ามาก้าวก่ายการตรวจทานปรับแก้ร่างสุนทรพจน์ของพัคกึนเฮ ยุ่มย่ามการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และสั่งปิดเขตอุตสาหกรรมแกซองในเกาหลีเหนือ

รวมทั้งแอบอ้างอำนาจพิเศษของผู้นำประเทศกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัว จนทั้งพ่อเจ้าลัทธิและลูกสาวถูกขนานนามว่าเป็น “รัสปูติน” ของเกาหลีใต้ 

ส่วนลัทธิชินชอนจีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการรุกเร้าเชิญชวนชาวเกาหลีใต้เข้าลัทธิโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น โดยใช้วิธีทำนายดวงชะตาและการติวหนังสือเพื่อตีสนิท อีกทั้งโบสถ์คริสต์ที่อยู่ในกระแสหลักยังขึ้นป้ายเตือนไม่ให้สาวกชินชอนจีแฝงเข้ามาร่วมการประกอบพิธีกรรม

นอกจากนี้ ในปี 2016 ทางคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England) ยังออกคำเตือนไปยังโบสถ์อื่นๆ ทั่วอังกฤษกว่า 500 แห่งให้ระมัดระวังการทำกิจกรรมของลัทธิพาราคริสโต (Parachristo) ซึ่งเป็นสาขาของลิทธิชินชอนจี

ปี 2019 คริสตจักรแบ็บติสต์ในรัฐมณีปุระของอินเดียยังเตือนผู้นับถือว่าลัทธิชินชอนจีอวดอ้างเกินจริง เช่น อ้างว่าเจ้าลัทธิสามารถเข้าถึงเนื้อหาของคัมภีร์ไบเบิลที่บาทหลวงของคริสตจักรอื่นเข้าไม่ถึง และจะเข้าถึงพระเจ้าได้เพียงทางเดียวคือเชื่อฟังคำสั่งสอนของลัทธิชินชอนจี

ลัทธินี้ยังบิดเบือนเนื้อหาของคัมภีร์ไบเบิลเพื่อล่อลวงคนหนุ่มสาว จนหมกมุ่นอยู่กับกิจกรรมของลัทธิ ไม่สนใจครอบครัวหรือคนรอบข้าง