posttoday

สถานการณ์ไวรัสที่บานปลาย การช่วยคนไทยกลับประเทศอาจไม่ใช่เรื่องง่าย

26 มกราคม 2563

เพราะดีไม่ดีอาจจะต้องอพยพประชาชนจากเมืองอื่นด้วยซ้ำ

หลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น บางประเทศก็เริ่มติดต่อกับรัฐบาลจีนเพื่อที่จะขอส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำมารับพลเมืองของตน แม้แต่บริษัทเอกชนบางแห่งก็เสนอไปที่รัฐบาลจีนเช่นกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะจีนอาจจะไม่ยอมปล่อยให้ใครออกมาจากอู่ฮั่นง่ายๆ แม้จะเป็นพลเมืองชาติอื่น เพราะหากมีผู้ติดเชื้อออกมาจากเมืองแล้วลุกลามไปยังที่อื่นๆ จีนในฐานะพลเมืองโลกก็จะลำบากไปด้วยเช่นกัน

การควบคุมการระบาดไม่ให้ขยายวงกว้างก็จะล้มเหลวไป!

ดังนั้น เรื่องนี้จึงต้องเป็นระดับนายกรัฐมนตรีที่ต้องออกมาชี้แจง เช่น กรณีของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะเพิ่งจะแถลงด้วยตัวเองว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังหารือกับทางการจีนเพื่อขอส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับพลเมืองญี่ปุ่นราว 700 คน ออกมาจากอู่ฮั่น

ในส่วนของสหรัฐ กระทรวงการต่างประเทศมีแถลงการณ์ว่า กำลังดำเนินการอพยพเจ้าหน้าที่และประชาชนชาวอเมริกันออกมาจากอู่ฮั่นแล้วแวะที่ซานฟรานซิสโก แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเตือนว่า มีพื้นที่จำกัดสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งหมายความว่า เจ้าหน้าที่จะมาก่อน ในส่วนประชาชนใครมาช้าอาจจะต้องติดแหงกอยู่ในอู่ฮั่นต่อไป

จะเห้นว่าแม้แต่สหรัฐยังเห็นว่าเป็นเรื่องยากในการอพยพประชาชนออกมา ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องเตรียมการแต่เนิ่นๆ จะช้าไม่ได้ เพราะกระบวนการซับซ้อน ทรัพยากรจำกัด และล่าสุด รัฐบาลจีนยอมรับแล้วว่า การระบาดรวดเร็วกว่าที่คาด

ดีไม่ดีอาจจะต้องอพยพประชาชนจากเมืองอื่นด้วยซ้ำ!

มาดูที่ฝรั่งเศส มีแผนการที่จะอพยพประชาชนจากมณฑลหูเป่ยด้วยรถบัส แต่เรื่องนี้ก็ไม่ง่ายเพราะหูเป่ยถูกปิดเส้นทางแล้ว ไหนจะต้องเสียเวลาตรวจสอบการติดเชื้อหรือแม้แต่การกักตัวเมื่อถึงจุดหมาย

กรณีที่ชัดเจนคือ บริษัท PSA ค่ายรถยนต์ของฝรั่งเศสเจ้าของเปอโยต์และซีตรองกล่าวในแถลงการณ์จะอพยพพนักงาน 38 คน แต่เมื่อออกจากอู่ฮั่นแล้วทั้งหมดถูกกักกันตัวในเมืองฉางซาซึ่งอยู่ห่างจากอู่ฮั่นประมาณ 300 กิโลเมตรก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่ประเทศต้นกำเนิด

รัสเซียนั้นคุยกับทางการจีนตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ว่าจะอพยพประชาชนจากอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

สรุปก็คือ สหรัฐ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และรัสเซียหารือกับฝ่ายจีนแล้วว่าจะอพยพคนของตนออกมา แต่อาจเป็นเพราะสถานการณ์ซับซ้อน จึงยังไม่มีประเทศไหนที่สามารถดำเนินการตามแผนได้

ในตอนนี้ เริ่มมีเสียงสะท้อนจากคนไทยในอู่ฮั่นแล้วว่าคงจะทนสถานการณ์ไม่ไหว และขอร้องให้รัฐบาลรับตัวกลับไป เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศจัดประชุมหารือในวันนี้แล้ว

แต่ผู้เขียนคิดว่ารัฐบาลขยับตัวเรื่องนี้ช้าเกินไป ช้าจนสถานการณ์ซับซ้อนและรุนแรงเกินกว่าที่จีนจะปล่อยให้มีการอพยพคนออกมาจากเมืองได้ง่ายๆ แม้คนไทยจะมีแค่ราว 50 คนในอู่ฮั่นก็ตาม ขนาดประเทศมหาอำนาจยังรอแล้วรออีกกว่าจีนจะยอมให้อพยพ

ถึงอพยพออกมาได้ก็จะต้องถูกกักตัวเอาไว้ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ในจีนก็ต้องในไทย

อย่างไรก็ตาม หากออกมาจากอู่ฮั่นได้พี่น้องคนไทยอาจรู้สึกอุ่นใจขึ้น ไม่ต้องทนอยู่ในภาวะสิ้นหวัง เงียบเหงา และหวาดกลัว โดยเฉพาะความขาดแคลนที่เกิดจากการปิดเมืองและกักตุนอาหาร

แต่ขอเตือนว่า หากสถานการณ์ร้ายแรงกว่านี้ เราอาจจะต้องเตรียมพร้อมกับการอพยพคนไทยจากเมืองอื่นๆ เช่นกัน และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องทำงานรวดเร็วกว่านี้

และที่สำคัญ (กว่านั้นอีก) รัฐบาลควรจะเลิกมองโลกในแง่ดีในสถานการณ์เลวร้าย เพราะหน้าที่ของรัฐบาลคือการตั้งสมมติฐานที่เลวร้ายที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นจริง  

บทวิเคราะห์โดย กรกิจ ดิษฐาน