posttoday

เช็คพลังทางเศรษฐกิจไต้หวัน ในวันที่คิดท้าชนแผ่นดินใหญ่

02 มิถุนายน 2562

สมาชิกตระกูลไช่ ยักษ์ใหญ่แห่งไต้หวัน คือผู้กุมพลังทางการเงินที่แท้จริง

สมาชิกตระกูลไช่ ยักษ์ใหญ่แห่งไต้หวัน คือผู้กุมพลังทางการเงินที่แท้จริง

สัปดาห์นี้มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐและไต้หวันร่วมประชุมด้านความมั่นคงครั้งแรกในรอบ 40 ปี ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน นอกจากนี้ สหรัฐยังส่งเรือรบมาป้วนเปี้ยนแถวๆ ช่องแคบไต้หวัน ทำให้การเผชิญหน้ากับจีนยิ่งระอุเข้าไปอีก

อย่าลืมว่า ประธานาธิบดีและรัฐบาลไต้หวันชุดนี้มาจากพรรค DPP ซึ่งเป็นพรรคที่ชูนโยบายเอกราช ไม่ประนีประนอมกับจีน และที่ผ่านมาไช่อิงเหวินแสดงจุดยืนไม่ญาติดีกับแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด

หลังจากที่มีข่าวออกมา มีชาวเน็ตแสดงความเห็นว่า ไต้หวันไม่ได้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจอีกต่อไป ทุกอย่างที่ไต้หวันเคยผลิตได้ แผ่นดินใหญ่ผลิตได้ และดีกว่า มากกว่า และตลาดใหญ่กว่า

แล้วไต้วันในวันนี้มีอะไรจะสู้จีนได้บ้างในทางเศรษฐกิจ?

ในด้านการเมือง ไต้หวันมีผู้นำชื่อว่า ไช่อิงเหวิน ในทางเศรษฐกิจก็กุมอำนาจไว้โดยคนตระกูลไช่อีกกลุ่มหนึ่งเช่นกัน นั่นคือสายของไช่วั่นไฉ ผู้จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อปี 2014 ด้วยวัย 85 ปี แต่ทิ้งอาณาจักรการเงินเอาไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อ

ไช่วั่นไฉ ผู้ก่อตั้งบริษัท Fubon Group เคยเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในวงการการเงินของไต้หวัน และครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของประเทศ ด้วยทรัพย์สินมากถึง 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

นี่คือข้อเท็จจริงที่ทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้

แต่ข้อเท็จจริงอีกอย่างก็คือ ไช่วั่นไฉ มิใช่คนในตระกูลไช่เพียงคนเดียวที่อยู่ในฐานะอภิมหาเจ้าสัวของดินแดนมังกรน้อย เพราะยังมีพี่น้องตลอดจนลูกหลานสกุลไช่อีกหลายคนที่อยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น ไช่เจิ้นหยู่ และไช่เจิ่งต๋า ทั้งคู่มีศักดิ์เป็นหลานของ ไช่วั่นไฉ่

และหนึ่งในนั้นที่มีความสำคัญยิ่งยวดไม่แพ้กันคือ ไช่หงถู บุคคลที่รวยเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีทรัพย์สินถึง 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเขาผู้นี้มีศักดิ์เป็นหลานของ ไช่วั่นไฉ และยังเคยครองอันดับหนึ่งในสมาคมเจ้าสัวไต้หวันมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน

เมื่อพี่น้องตระกูลไช่สายนี้ คือ ไช่หงถู ไช่เจิ้นหยู่ และไช่เจิ่งต๋า ผนึกกำลังกัน พวกเขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของไต้หวัน ด้วยทรัพย์สินถึง 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐ รองจากพี่น้องตระกูลเว่ย และหัวไท่หมิง หรือ Terry Gou ผู้ครองอันดับ 1

ทั้งนี้ ไช่ ผู้เป็นหลานทั้ง 3 คน คือผู้บริหารร่วมกันของบริษัท Cathay Financial Holdings สถาบันการเงินชั้นนำ มีสถานะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบริษัท Fubon Group

ด้วยเหตุนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่า กระแสการเงินการลงทุนในไต้หวันนั้น อยู่ในกำมือของสกุลไช่ไม่มากก็น้อย

แต่ความมั่งคั่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ ไม่ได้สร้างขึ้นโดยอนุชนรุ่นหลังเหล่านี้ แต่เป็นผลจากน้ำพักน้ำแรงของ ไช่วั่นหลิน ผู้เป็นพี่ชายของ ไช่วั่นไฉ และบิดาของ 3 ทหารเสือแห่ง Cathay Financial Holdings

ไช่วั่นหลิน เริ่มต้นจากศูนย์ ในครอบครัวอันแสนจะยากจนข้นแค้น ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำ ขายผักขายเต้าหู้เลี้ยงชีวิตร่วมกับพี่น้อง จนสูญเสียโอกาสทางการศึกษาไป

แต่เพราะความอุตสาหะและสติปัญญาอันหลักแหลม ทำให้นายใหญ่แห่งตระกูลไช่สร้างตัวเองขึ้นมาทีละน้อย และประสบความสำเร็จทีละขั้น กระทั่งกลายเป็นผู้กุมความเป็นไปในธุรกิจการเงินและประกันในไต้หวันในที่สุด อีกทั้งครั้งหนึ่งเขาผู้นี้ยังเคยได้รับการจัดอันดับเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกมาแล้ว

แม้วันนี้สกุลไช่สายไช่วั่นหลิน จะมิได้ครองอันดับหนึ่งในยุทธจักร แต่รากฐานอาณาจักรการเงินที่วางไว้ให้กับน้องชายและลูกๆ สืบมา ก็ยังมั่นคงแข็งแรง มีอนาคตที่สดใสอยู่

ผู้สืบทอดของ ไช่หวั่นไฉ ก็คือลูกชายทั้ง 2 คือ ไช่หมิงซิ่ง (Richard Tsai) กับ ไช่หมิงจง (Daniel Tsai)

ไช่หมิงซิ่ง อายุราว 61-62 ปี เป็นประธานบริษัทคนปัจจุบัน มีทรัพย์สินมากถึง 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้น 3.20% ส่วนไช่หมิงจง พี่ชายมีทรัพย์สินเท่ากัน ถือหุ้น 2.04%

นอกจากนี้ ยังมีคนแซ่ไช่อีกคนที่ร้ายกาจไม่แพ้กัน นั่นคือ ไช่เหยี่ยนหมิง เจ้าสัวอันดับ 1 ของไต้หวัน ซึ่งบุคคลผู้นี้แม้จะมีแซ่ไช่ แต่ก็มิได้เกี่ยวพันอะไรกับ ไช่วั่นไฉ ทั้งยังช่วยทำให้ “คนแซ่ไช่” เป็นที่เกรงขามของชาวโลกอยู่ไม่น้อย