คู่สามีฝรั่งภรรยาไทยสร้างบ้านกลางทะเล ฟ้องสื่อนอก อ้างถูกทหารไทยตามล่า

คู่สามีชาวสหรัฐ-ภรรยาชาวไทย ที่สร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเลนอกฝั่งภูเก็ต เผยกำลังหนีเจ้าหน้าที่ไทยตามล่าจับกุมข้อหาความมั่นคง

สำนักข่าวเอบีซีประจำเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนของสหรัฐ รายงานว่านายแซด เอลวาร์ตอฟสกี ชาวสหรัฐ กับน.ส. สุปราณี เทพเดช หรือ นาเดีย แฟนสาวชาวไทยที่ตกเป็นข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการสร้างบ้านพักส่วนตัวกลางทะเล หรือ ‘ซีสเตด’ (seastead) นอกชายฝั่งเกาะภูเก็ตของไทยนั้น ทั้งสองกำลังหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไทย จากการที่ถูกระบุว่าทั้งคู่กำลังทำผิดกฎหมายด้านความมั่นคง เนื่องจากได้สร้างสิ่งปลูกสร้างกลางทะเลในบริเวณน่านน้ำซึ่งอาจละเมิดอำนาจอำนาจอธิปไตยของไทย

นายเอลวาร์ตอฟสกีซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน และเคยทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีให้กับรัฐบาลสหรัฐ ได้ส่งอีเมล์ไปยังสำนักข่าวเอบีซีในเมืองดีทรอยต์ ระบุว่า ส่วนตัวเขาเป็นกังวลในความปลอดภัยของตนเองกับแฟนสาว ขณะนี้เราทั้งคู่กำลังหลบซ่อนตัว

"ทหารไทยต้องการให้เราตาย วิธีของพวกเขาคือการสร้างข่าวขึ้นมา และเอามันมาใช้โจมตีว่าพวกเราเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง เราอาจเจอโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหาร ทางการไทยไม่ต้องการให้เรารอดชีวิตเพื่อเล่าความเรื่องราวทางฝั่งเรา"

ที่ผ่านมานายแซดและแฟนสาวชาวไทยได้อาศัยอยู่บนซีสเตดชั่วครั้งชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือน ขณะที่แนนซี่ เอลวาร์ตอฟสกี น้องสาวของนายแซดได้เปิดเผยต่อสื่อท้องถิ่นเช่นกันว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของพี่ชายอย่างมากและต้องการให้เขากลับสหรัฐโดยเร็ว

ไม่ชัดเจนนักว่าขณะนี้แซดและนาเดียหลบหนีไปอยู่ที่ใดหลังจากเหตุการณ์ซีสเตด โดยตอนหนึ่งของอีเมล์ระบุว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในประเทศเพื่อพูดคุย รวมถึงต้องการความช่วยเหลือจากทางสถานทูตสหรัฐทั้งในกรุงเทพ และที่สถานกงสุลในภูเก็ตหาทางช่วยเหลือแฟนสาวในฐานะผู้ลี้ภัย

สำหรับซีสเตดกลางทะเลแห่งนี้ สร้างขึ้นโดยบริษัทโอเชียน บิลเดอร์ส อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตมากกว่า 12 ไมล์ทะเล ซึ่งบริษัทที่สร้างระบุว่าเป็นน่านน้ำสากล แต่บางหน่วยงานที่ส่งเสริมการสร้างเมืองลอยน้ำระบุว่า ระยะห่าง 12 ไมล์ทะเลนี้มันไม่ได้หมายถึงน่านน้ำสากล แต่มันคือเขตนอกน่านน้ำอาณาเขต (contiguous zone) ที่ประเทศหนึ่งสามารถหาประโยชน์จากเขตนี้ได้ ขณะที่น่านน้ำสากลจริงจะต้องห่างจากชายฝั่งของประเทศมากกว่า 200 ไมล์ทะเล

สื่อสหรัฐยังอ้างรายงานจากบางกอกโพสต์ว่า ทางด้านกรมเจ้าท่าของไทยกำลังเตรียมเข้ารื้อถอนซีสเตดเจ้าปัญหานี้แล้ว