ทายาท 'ลอรีอัล' ขึ้นแท่นสตรีรวยสุดในโลก
ฟอร์บสเผยทายาทหญิงลอรีอัล แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง ขึ้นแท่นเศรษฐีนีรวยสุดในโลกประจำปี 2019
ฟอร์บสเผยทายาทหญิงลอรีอัล แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง ขึ้นแท่นเศรษฐีนีรวยสุดในโลกประจำปี 2019
เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บสได้เปิดเผยรายงานจากการจัดอันดับ “Forbes World’s Billionaires” แบบเรียลไทม์เมื่อวันที่ 5 มีนาคมว่า ฟร็องซัวส์ เบตตองกูร์ต-เมแยร์ส (Francoise Bettencourt Meyers) ทายาทสาวเพียงคนเดียวของ Liliane Bettencourt แห่งแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง "ลอรีอัล" ถูกจัดให้เป็นสตรีที่รวยที่สุดในโลกด้วยมูลค่าทรัพย์สินถึง 50,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกจัดเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดอันดับที่ 14 ของโลก
นางฟร็องซัวส์ เป็นบุตรสาวคนเดียวของ Liliane Bettencourt และเป็นหลานสาวของนาย Eugène Schueller ผู้ก่อตั้งบริษัทลอรีอัล โดยนางฟร็องซัวส์ ได้รับมรดกจำนวนมากจากนาง Liliane ผู้เป็นมารดาซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาด้วยวัย 97 ปี ส่งผลให้เธอและครอบครัวของเธอถือครองหุ้นในบริษัทลอรีอัลมากกว่า 33% อีกทั้งผลประกอบการของลอรีอัลในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่มูลค่าถึง 7,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น
นางฟร็องซัวส์ เป็นบุตรสาวคนเดียวของ Liliane Bettencourt และเป็นหลานสาวของนาย Eugène Schueller ผู้ก่อตั้งบริษัทลอรีอัล โดยนางฟร็องซัวส์ ได้รับมรดกจำนวนมากจากนาง Liliane ผู้เป็นมารดาซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาด้วยวัย 97 ปี ส่งผลให้เธอและครอบครัวของเธอถือครองหุ้นในบริษัทลอรีอัลมากกว่า 33% อีกทั้งผลประกอบการของลอรีอัลในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่มูลค่าถึง 7,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น
สำหรับนางฟร็องซัวส์ขึ้นแท่นเป็นสตรีรวยที่สุดในโลกแซงหน้านางอลิซ วอลตัน ทายาทสาวของตระกูลวอลมาร์ท ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐซึ่งนางวอลตันนั้นมีทรัยพ์สินราว 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกจัดเป็นมหาเศรษฐีรวยที่สุดอันดับ 17 ของโลก
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าจับตาว่าจะมีม้ามืดที่อาจถูกจัดอันดับเป็นเศรษฐีนีรวยสุดในโลกคนใหม่ในเร็วๆนี้คือนาง MacKenzie Bezos อดีตภรรยาของนายเจฟฟ์ เบซอส ที่ทั้งสองได้ประกาศหย่าร้างกันไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน ซึ่งมีรายงานว่านางเบซอสจะได้หุ้นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งในบริษัทอเมซอนด้วย ซึ่งอาจคิดเป็นมูลค่าสูงถึง50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ