ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉิน หางบสร้างกำแพง

ปธน. ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยไม่มีเหตุฉุกเฉิน หวังดึงงบกลาโหมสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ประกาศสถาการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติตามแนวชายแดนทางใต้ เพื่อหวังหางบประมาณจัดสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก

ในคำแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนทางใต้ของประเทศนั้นกำลังเผชิญปัญหา ลักลอบขนยาเสพติด ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรมมากกมาย และถือเป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเร่งด่วน ที่ผ่านบริหารมีความจำเป็นจะต้องดึงงบประมาณบางส่วนจากกระทรวงกลาโหมเพื่อมาใช้สร้างกำแพงกั้นชายแดนระยะทางยาวกว่า 3,145 กิโลเมตร

ปธน.ทรัมป์ยอมรับว่า การประกาศใช้มาตรการนี้อาจสุ่มเสี่ยงให้ฝ่ายบริหารต้องถูกฟ้องร้อง แต่เขามั่นใจว่าจะชนะในศาลสูงสุดอย่างแน่นอน

ปธน.ทรัมป์ระบุอีกว่า เขาไม่มีทางเลือกจึงต้องใช้มาตรการนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้เสร็จ รวมถึงไม่ต้องการเสี่ยงให้เกิดเหตุ Government Shutdown อีกรอบ นอกจากนี้เขายังได้ลงนามร่างงบประมาณชุดสุดท้ายที่เสนอโดยสภาคองเกรสแล้วด้วย จึงส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางมีงบประมาณไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดปีงบประมาณพอดี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากผู้แทนฯจากพรรครีพับลิกกัน และพรรคเดโมแครต เห็นชอบในแผนงบประมาณชุดสุดท้ายมูลค่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งงบประมาณดังกล่าวครอบคลุมถึงการให้งบประมาณในการสร้าง "รั้วเหล็ก" ตามแนวชายแดนทางใต้ของรัฐเท็กซัสบางส่วนด้วย ระยะทางเพียง 88 กิโลเมตร ไม่ใช่เป็น"กำแพงคอนกรีต"ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ จะทำให้ ปธน.ทรัมป์ มีงบประมาณพิเศษราว 8,000 ล้านดอลลาร์ ที่สามารถนำไปใช้สำหรับสร้างกำแพงได้ สอดคล้องกับที่ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า ปธน.ทรัมป์จะดึงงบประมาณจากสองส่วนจากกระทรวงกลางโหมคือ งบกองทุนต่อต้านยาเสพติดของกองทัพมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนก่อสร้างระบบโครงสร้างทางทหาร

ด้านคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา เรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินของประธานาธิบดีทรัมป์ในทันที

ในคำแถลงของคองเกรสซึ่งมีพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการจัดการไต่สวนการใช้อำนาจของประธานาธิบดี ทำเนียบขาว และกระทรวงยุติธรรม อย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า

ขณะเดียวกันด้านผู้นำพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ คือนาง แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงส่วนน้อยในวุฒิสภาสหรัฐฯ มีแถลงการณ์ตำหนิคำประกาศของ ปธน.ทรัมป์ ว่าเปรียบเสมือนการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง เนื่องจากวิกฤติการณ์ฉุกเฉินที่ ปธน.ทรัมป์ อ้างถึงนั้น ไม่มีอยู่จริง