posttoday

"Mr Lee’s Noodles"พลิกวงการบะหมี่ขยะ

12 กุมภาพันธ์ 2562

เมื่อคุณพ่อลูกสองจากสหราชอาณาจักรพลิกโฉมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ให้กลายเป็นอาหารที่มีส่วนผสมคุณภาพสูงและไม่เป็นภัยต่อสุขภาพ

เมื่อคุณพ่อลูกสองจากสหราชอาณาจักรพลิกโฉมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ให้กลายเป็นอาหารที่มีส่วนผสมคุณภาพสูงและไม่เป็นภัยต่อสุขภาพ

“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” เป็นอาหารง่ายๆ อีกหนึ่งเมนูที่หลายๆ คนชอบกิน แค่ต้มน้ำเติมลงไปก็พร้อมโซ้ย รวดเร็วประหยัดเวลา โดยเฉพาะช่วงใกล้สิ้นเดือนของใครหลายๆ คน ที่เรียกว่าต้องมีติดบ้านไว้กันตาย แต่อย่างที่รู้กันว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นไม่ใช่อาหารที่เราควรจะกินบ่อยๆ หรือกินเป็นอาหารหลัก เพราะส่วนประกอบที่ให้คุณมากกว่าโทษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นเป็นเมนูยอดฮิตทั่วโลกจริงๆ

จากสถิติพบว่า ในแต่ละปีทั่วโลกมีการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่า 100 ล้านรายการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ “อาหารขยะ” เนื่องจากส่วนผสมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง ในสหราชอาณาจักร ผู้คนที่รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำ ลงเอยที่การเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 1993 เป็น 27% ในปี 2015

นั่นจึงดีกว่าไหมถ้าจะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อร่อยด้วยและได้ประโยชน์ด้วย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะ เดเมี่ยน ลี คุณพ่อลูกสองชาวออสเตรเลีย ที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ผู้ก่อตั้ง Mr Lee’s Noodles หรือปัจจุบันคือ Mr Lee’s Pure Foods ได้ลงมือสร้างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีคุณค่าสำหรับทุกคนแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ลี เริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการออกแบบแก็ดเจ็ท (Gadget) แต่แล้วในอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ต่อมา ชีวิตของเขากลับตาลปัตร หลังพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ซึ่งแพทย์บอกว่า ลี จะเหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ แต่เพราะอยากจะเห็นลูกๆ ทั้งสองคนเติบโต เขาจึงฮึดที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ และเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตด้วยการเริ่มเปลี่ยนวิถีการกิน ลี ควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด งดเกลือ น้ำตาล และไขมันอิ่มตัว ควบคู่ไปกับการทำเคมีบำบัด กระทั่ง 1 ปีผ่านไป เขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์

"Mr Lee’s Noodles"พลิกวงการบะหมี่ขยะ

แต่ในช่วงระหว่างที่ ลี ต้องดูแลสุขภาพอย่างเคร่งครัดอยู่นั้น เขาอยากรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เมื่อลองค้นคว้าข้อมูลบะหมี่ของแบรนด์ต่างๆ ลี กลับพบว่า ไม่มียี่ห้อไหนที่เขาจะสามารถกินได้อย่างปลอดภัย “ผมพบว่าผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 ล้านชิ้นที่ขายทั่วโลกในแต่ละปี แทบจะไม่มีส่วนผสมจริงเลย” ลี กล่าว

หลังจากร่างกายกลับมาสมบูรณ์ ในปี 2016 ลี จึงได้เปิดตัว Mr Lee’s Noodles ที่เขาบอกว่า เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่้สุดในโลก โดยบะหมี่ของ Mr Lee’s Noodles แตกต่างจากแบรนด์ทั่วๆ ไป โดยเขาเน้นไปที่การใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูง เช่น เนื้อแห้งและผัก อาทิ ต้นหอม บร็อกโคลี่ ถั่วเขียว เห็ด และอื่นๆ ซึ่งผ่านกระบวนการอบแห้ง แต่ยังคงรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ และบะหมี่ทุกถ้วยจะไม่มีส่วนผสมของสารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น สี รสชาติ ปราศจากสารเจือปน และผงชูรส ให้พลังงานน้อยกว่า 238 แคลอรี นอกจากนั้น Mr Lee’s Noodles ยังเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงยี่ห้อเดียวที่ได้รับรองจากองค์กร Coeliac UK ว่ามีน้ำตาลต่ำและปราศจากกลูเตน

Mr Lee’s Noodles เปิดตัวในราคา 2.50 ปอนด์ (ราว 100 บาท) ในขณะที่แบรนด์คู่แข่งทั่วๆ ไปมีราคาอยู่ที่ถ้วยละ 1 ปอนด์ (ราว 40 บาท) เท่านั้น ที่ผ่านมามีหลายคนเตือน ลี ว่า ราคาที่สูงเกินไปอาจทำให้บะหมี่ของเขาขายไม่ออก แต่ ลี อธิบายว่า เขาเชื่อว่าผู้บริโภคยินดีจะจ่ายเงินเพิ่ม หากได้รับประทานสิ่งที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากกว่า

"Mr Lee’s Noodles"พลิกวงการบะหมี่ขยะ

ปัจจุบัน Mr Lee’s Noodles หรือ Mr Lee’s Pure Foods มีบริการผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติ ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล และทางช่องทางออนไลน์อย่าง Amazon โดย ลี ยังวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังภาคส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านสายการบิน รถไฟ และโรงแรม พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ที่มีคุณภาพสูงอย่างการใช้บรรจุภัณฑ์ด้วยวัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกลดของเสีย

Mr Lee’s Noodles ได้รับรางวัลมากมาย จากทั้งในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ โดยปีที่ผ่านมา เพิ่งคว้ารางวัลผู้ชนะเหรียญทองจากเวที Food Talk Awards 2018 “Smart Tech / Kitchen Award”, Asia Foods Innovation Awards 2018, Best of Health Awards 2018 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแม้ว่าธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ ลี จะประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้ได้รับการระดมทุนเป็นเงินมากกว่า 9.1 ล้านปอนด์ (ราว 377 ล้านบาท) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้จะทุบสถิติยอดขายทั่วโลกได้กว่า 3.9 ล้านปอนด์ (ราว 160 ล้านบาท)

แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของเจ้าของไอเดียอย่าง ลี เขาบอกว่า ยังคงให้ความสำคัญกับการช่วยจัดการวิกฤตด้านสุขภาพที่ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญ ด้วยการส่งมอบอาหารที่มีคุณค่าให้กับผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายนั่นเอง

ภาพ mrleesnoodles.com

ที่มา www.m2fnews.com